รวมสถานที่ท่องเที่ยวทางภาคใต้จ.สงขลา+สตูล+สุราษฏร์ธานี
หน้า 1 จาก 1
รวมสถานที่ท่องเที่ยวทางภาคใต้จ.สงขลา+สตูล+สุราษฏร์ธานี
สถานที่ท่องเที่ยว
:: หาดสะกอม ::
ห่างจากตัวเมืองสงขลา ประมาณ 53 กิโลเมตร ไปตามเส้นทางสงขลา-จะนะ-เทพา หาดทรายขาวสะอาดสวยงามมาก นับเป็นสถานที่เหมาะสำหรับการพักผ่อน ตั้งแค้มป์ สามารถเช่าเรือประมงไปเที่ยวเกาะขาม ที่มีปลาชุกชุมเหมาะแก่ผู้ชื่นชอบกีฬาตกปลา อยู่ห่างจากฝั่งประมาณ 2 กิโลเมตร บริเวณหาดแห่งนี้มีร้านอาหารและที่พักบริการ
:: น้ำตกโตนงาช้าง ::
อยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโตนงาช้าง เป็นน้ำตกที่สวยงามแห่งหนึ่งในภาคใต้ อยู่ห่างจากอำเภอหาดใหญ่ประมาณ 28 กิโลเมตร ไปตามเส้นทางหาดใหญ่-รัตภูมิ ถึงหลักกิโลเมตรที่ 13 เลี้ยวซ้ายที่บ้านหูแร่ 13 กิโลเมตร น้ำตกโตนงาช้างมี 7 ชั้น ชั้นที่สวยงามและเป็นชื่อของน้ำตกคือ ชั้นที่ 3 สายน้ำตกไหลแยกกันมาในลักษณะคล้ายงาช้างแยกเป็น 2 ทาง การจะเดินเที่ยวน้ำตกทั้ง 7 ชั้น ต้องใช้เวลาเกือบ 3 ชั่วโมง เพราะทางขึ้นน้ำตกค่อนข้างชัน การเดินทาง จากหาดใหญ่สามารถโดยสารรถสองแถวจากตลาดสดเทศบาลหาดใหญ่ หรือเช่ารถตุ๊กตุ๊ก ราคา 300-400 บาท
:: พิพิธภัณฑ์พธำมรงค์ (พะธำมะรง) ::
ตั้งอยู่ที่ถนนจะนะใกล้กับพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สงขลา ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งบ้านพักเดิมของรองอำมาตย์โทขุนวินิจทัณฑกรรม (บึ้ง ติณสูลานนท์) บิดาของ ฯพณฯ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ พิพิธภัณฑ์ฯ เป็นสถาปัตยกรรมแบบเรือนไทยที่สร้างขึ้นเพื่อจำลองสถานที่เกิดของ ฯพณฯ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ อดีตนายกรัฐมนตรีและรัฐบุรุษซึ่งเป็นชาวจังหวัดสงขลา จากคำบอกเล่าความทรงจำในอดีตสมัยที่บิดาของท่านดำรงตำแหน่งพัสดีเรือนจำ สงขลา “พะทำมะรง” เป็นตำแหน่งเก่าของข้าราชการกรมราชทัณฑ์ ที่มีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานีควบคู่กับตำแหน่งพัสดีปรากฎหลัก ฐานอยู่ในกฎหมายตราสามดวง และอัยการลักษณะต่าง ๆ ตำแหน่งพะทำมะรงได้ใช้ติดต่อกันมาตลอดจนได้มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติ ราชทัณฑ์ พ.ศ. 2479 ตำแหน่งพะทำมะรงจึงได้ถูกยกเลิกไป พิพิธภัณฑ์ฯ เปิดให้เข้าชมทุกวันเว้นวันจันทร์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 08.30-16.00 น.
:: พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สงขลา ::
ตั้งอยู่ที่ถนนวิเชียรชม เป็นสถาปัตยกรรมแบบจีน อายุกว่า 100 ปี เดิมเป็นบ้านพักส่วนตัวของพระยาสุนทรานุรักษ์ (เนตร ณ สงขลา) ผู้ช่วยราชการเมืองสงขลา สร้างเมื่อ พ.ศ. 2421 จนกระทั่งปี พ.ศ. 2437 จึงใช้เป็นที่พำนักและว่าราชการของพระวิจิตรวรศาสตร์ ข้าหลวงพิเศษตรวจราชการเมืองสงขลา ซึ่งต่อมาก็คือเจ้าพระยายมราช (ปั้น สุขุม) หลังจากนั้นใช้เป็นศาลาว่าการมณฑลนครศรีธรรมราชและเป็นศาลากลางจังหวัดจนถึง ปี พ.ศ. 2496
ในปี พ.ศ. 2516 กรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนอาคารนี้เป็นโบราณสถานและปรับปรุงเป็น พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ และเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อ พ.ศ. 2525 ภายในพิพิธภัณฑ์จัดแสดงศิลปวัตถุภาคใต้ตอนล่าง และเป็นแหล่งศึกษาหาความรู้ทางด้านโบราณคดี ประวัติศาสตร์ศิลปะ ชาติพันธุ์วิทยา ศิลปะจีน ศิลปะพื้นบ้านพื้นเมือง อาทิ บานประตูไม้เดิมของจวน เป็นศิลปะพุทธศตวรรษที่ 24 ทำด้วยไม้จำหลักเขียนสีและประดับมุกฝีมือช่างชาวจีนชั้นครู แสดงออกถึงคตินิยมในธรรมเนียมประเพณี วรรณคดี ศาสนาตามแบบจีนที่วิจิตรงดงามยังความสมบูรณ์อยู่มาก โบราณวัตถุสมัยก่อนประวัติศาสตร์แหล่งโบราณคดีจากบ้านเชียง และกาญจนบุรี เปิดให้เข้าชมวันพุธ-วันอาทิตย์ เวลา 09.00-12.00 น. และ 13.00-16.00 น. ค่าเข้าชม ชาวไทย 10 บาท ชาวต่างประเทศ 30 บาท สอบถามเพิ่มเติม โทร. 0 7431 1728
:: สถาบันทักษิณคดีศึกษา ::
ตั้งอยู่หมู่ที่ 1 บ้านอ่าวทราย ตำบลเกาะยอ บริเวณใกล้เชิงสะพานติณสูลานนท์ช่วงที่ 2 สถาบันตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2521 เพื่อศึกษาเกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรมของภาคใต้ มีพื้นที่ทั้งหมด 23 ไร่ ลักษณะของอาคารเป็นสถาปัตยกรรมแบบภาคใต้ แบ่งออกเป็น 4 อาคาร โดยแต่ละอาคารจะแบ่งออกเป็นห้อง ๆ แสดงเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และชาติพันธุ์ โบราณวัตถุที่เกิดจากภูมิปัญญาของคนในท้องถิ่น เครื่องประดับศาตราวุธที่ใช้กันในภาคใต้ เช่น กริช มีดชายธง มีดหางไก่ แสดงผ้าทอพื้นเมือง เช่น ผ้าทอพุมเรียง ผ้าทอปัตตานี ห้องแสดงกระต่ายขูดมะพร้าวรูปทรงต่าง ๆ ที่มีรูปแบบหาชมได้ยาก ห้องแสดงการละเล่นพื้นเมือง เช่น หนังตะลุง โนรา ลิเกป่า ห้องแสดงวิถีชีวิตชาวใต้ เช่น การแสดงการละเล่นและของเล่นเด็ก เช่น การเล่นซัดราว การเล่นว่าว ลูกข่าง ห้องแสดงประเพณีการบวช ห้องแสดงการรักษาพยาบาลแบบโบราณ สถาบันมีห้องพักไว้บริการนักท่องเที่ยว ห้องสัมมนา และร้านขายสินค้าพื้นเมือง เช่น หัตถกรรมกระจูด หัตถกรรมปาหนัน หัตถกรรมย่านลิเพา ผ้าทอเกาะยอ ผลิตภัณฑ์จากเปลือกหอย ผลิตภัณฑ์จากกะลามะพร้าว เครื่องเงิน เป็นต้น สถาบันได้รับรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ประเภทแหล่งท่องเที่ยวดีเด่นทางวัฒนธรรม และโบราณสถาน ปี 2543 จากจุดชมวิวของสถาบันสามารถมองเห็นทัศนียภาพที่สวยงามของทะเลสาบสงขลา เปิดให้ผู้สนใจเข้าชมทุกวัน ระหว่างเวลา 8.30-17.00 น. ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท ชาวต่างประเทศ 50 บาท สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 0 7433 1184-9
การเดินทาง อยู่ห่างจากตัวเมืองสงขลาประมาณ 18 กิโลเมตร ตามทางหลวงสายลพบุรีราเมศวร์ และเลี้ยวซ้ายที่สี่แยกบ้านน้ำกระจาย ไปตามทางหลวงสาย 4146 ทางไปเกาะยอ ใกล้สะพานติณสูลานนท์ ช่วง 2 หรือนั่งรถโดยสารประจำทางจากหอนาฬิกาในตัวเมือง ลงที่สี่แยกบ้านน้ำกระจาย และต่อรถมอเตอร์ไซด์
:: สะพานติณสูลานนท์ ::
เป็นส่วนหนึ่งของทางหลวงหมายเลข 4146 เชื่อมระหว่างทางหลวงหมายเลข 407 สายหาดใหญ่-สงขลา กับทางหลวงหมายเลข 4083 สายสงขลา-ระโนด โดยเป็นสะพานข้ามทะเลสาบสงขลาจากฝั่งบ้านน้ำกระจายผ่านเกาะยอ ไปฝั่งเขาเขียว เพื่ออำนวยความสะดวกในการคมนาคมให้มีความสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้นโดยไม่ต้องรอ ข้ามแพขนานยนต์ บริเวณฝั่งหัวเขาแดง สะพานแบ่งเป็น 2 ช่วง ช่วงแรก เชื่อมระหว่างชายฝั่งอำเภอเมือง สงขลา บริเวณบ้านน้ำกระจาย กับชายฝั่งตอนใต้ของเกาะยอ ความยาวรวมเชิงสะพานทั้งสองด้าน ประมาณ 1,140 เมตร ช่วงที่ 2 เชื่อมระหว่างฝั่งด้านเหนือของเกาะยอกับฝั่งบ้านเขาเขียว ความยาวทั้งสิ้นประมาณ 1,800 เมตร สะพานนี้เริ่มก่อสร้างเมื่อ 26 มีนาคม 2527 และทำพิธีเปิดเมื่อวันที่ 25 กันยายน 2529
:: เขาเก้าเส้ง ::
ห่างจากหาดสมิหลาประมาณ 3 กิโลเมตร โดยใช้เส้นทางไปสถาบันเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งแห่งชาติ มีตำนานเล่าถึงเขาเก้าเส้ง หรือที่เรียกกันในภาษาพื้นเมืองว่า “หัวนายแรง” ว่า “ครั้งนั้นทางเมืองนครศรีธรรมราชกำหนดบรรจุพระบรมสารีริกธาตุในเจดีย์ และจัดงานเฉลิมฉลองใหญ่โต บรรดา 12 หัวเมืองปักษ์ใต้ต่างก็นำเงินทองไปบรรจุในพระบรมธาตุ เมืองที่นายแรงเป็นเจ้าเมืองก็เป็นเมืองขึ้นนครศรีธรรมราชด้วย ประกอบกับนายแรงมีความศรัทธาในพุทธศาสนา จึงขนเงินทองเป็นจำนวนมากถึงเก้าแสนบรรทุกเรือสำเภา พร้อมด้วยไพร่พลออกเดินทางไปเมืองนครศรีธรรมราช ขณะกำลังเดินทางเรือสำเภาถูกคลื่นลมชำรุด จึงเข้าจอดเรือที่ชายฝั่งหาดทรายแห่งหนึ่ง เพื่อซ่อมแซมเรือ พอได้ทราบข่าวว่าทางเมืองนครศรีธรรมราชได้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุเสร็จแล้ว นายแรงเสียใจมาก จึงให้ไพร่พลขนเงินทองบรรจุไว้บนยอดเขาลูกหนึ่ง สั่งให้ลูกเรือตัดหัวของตนไปวางไว้ที่ยอดเขา นายแรงกลั้นใจตาย ลูกเรือต้องจำใจตัดหัวเจ้านายไปวางไว้บนยอดเขาตามคำสั่ง เขาลูกนี้ภายหลังเรียกว่า “เขาเก้าแสน” เรียกเพี้ยนไปเป็น “เก้าเส้ง”ก้อนหินที่ปิดทับบนยอดเขาเรียกว่า“หัวนายแรง” ชาวบ้านเชื่อว่าดวงวิญญานของนายแรงยังเป็นปู่โสมเฝ้าทรัพย์มาจนทุกวันนี้”
:: เกาะยอ ::
เป็นเกาะเล็ก ๆ ในทะเลสาบสงขลา เดินทางโดยข้ามสะพานติณสูลานนท์ ไปตามเส้นทาง จากตัวเมืองใช้ทางหลวงหมายเลข 407 และเลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวง 4083 ทางไปอำเภอสิงหนคร เกาะยอมีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 9,275 ไร่ พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นไหล่เขาและที่ราบตามเชิงเขา เหมาะแก่การเกษตรกรรม บนเกาะยอมีการทำสวนผลไม้แบบสุมรุม หมายถึงผลไม้จะผลัดกันให้ผลผลิตตลอดปี เช่น ส้มโอ มะพร้าว ขนุน ผลไม้ที่มีชื่อของเกาะยอคือ จำปาดะ ลักษณะคล้ายขนุนแต่ลูกเล็กกว่า สามารถนำไปทอดเหมือนกล้วยแขก หรือจะกินสดก็ได้ และผ้าทอเกาะยอ เป็นผ้าพื้นเมืองที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมจากผู้นิยมสวมใส่ผ้าไทย มีลายที่เป็นเอกลักษณ์ เช่น ลายราชวัตถ์ ดอกพิกุล ดอกพะยอม เนื้อผ้าดูแลรักษาง่าย นอกจากนั้นเกาะยอยังเป็นแหล่งเลี้ยงปลากะพงขาวในกระชังในทะเลสาบสงขลาอีก ด้วย
จ.สตูลสถานที่ท่องเที่ยว
:: พายเรือลอดถ้ำข้าม 2 อำเภอที่ถ้ำเจ็ดคต ::
สตูล จังหวัดใต้สุดด้านทะเลอันดามัน ที่รู้จักกันดีคือหมู่เกาะตะรุเตา แต่ที่อำเภอละงู และกิ่งอำเภอมะนัง มีถ้ำใหญ่ น้ำลอดได้อยู่แห่งหนึ่งคือ ถ้ำเจ็ดคตปากถ้ำอยู่กิ่ง อำเภอมะนัง ส่วนหลังถ้ำอยู่ที่อำเภอละงูภายในมีน้ำไหลลอดคดโค้ง ท้าทายให้ นักผจญภัยพายเรือลอดถ้ำ และชมความสวยงามของ หินงอก หินย้อย ถ้าใครพายลอดไปได้ ก็ต้องถือว่าสุดยอด เพราะพายเรือลอดถ้ำข้ามมาตั้ง 2 อำเภอ
พายเรือลอดถ้ำข้าม 2 อำเภอที่ถ้ำเจ็ดคต แผล่งผจญภัยแห่งใหม่ จ.สตูล
ช่วงเวลาที่ดีที่สุด: ช่วงเวลา 11.00 – 12.00 น.
ฤดูกาลที่ดี ที่สุด: เดือนธันวาคม
จุดชมวิวที่ดีที่สุด: ปากถ้ำทั้งสองด้าน
:: เขตชายแดนไทย-มาเลเซีย ::
อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ เพียง 2 กิโลเมตร บริเวณเขตแดนมีหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ ตั้งอยู่ หากเดินทางต่อไปอีกประมาณ 23 กิโลเมตร ก็จะถึงปาดังเบซาร์ ซึ่งมีสินค้าราคาถูกจำหน่าย หรือหากต้องการไปยังเมืองกางะ เมืองหลวงของรัฐเปอร์ลิส ก็สามารถไปได้เพียงเดินทางไปอีกประมาณ 30 กิโลเมตรเท่านั้น ด่านนี้เปิดตั้งแต่ 06.00-19.00 น. และจะมีตลาดนัดทุกวันเสาร์-อาทิตย์ในช่วงเช้า สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 0 7472 2730-1
การเดินทาง จากตัวเมืองสตูลใช้ทางหลวงหมายเลข 406 ระยะทาง 19 กิโลเมตร มีทางแยกขวา ไปตามทางหลวงหมายเลข 4184 กม.ที่ 61-62 ระยะทาง 20 กิโลเมตร หรือนั่งรถสองแถวสตูล-วังประจัน รถจอดที่หน้าโรงแรมแหลมทอง หรือ ขึ้นรถสตูล-เขตแดน ที่บริเวณสามแยกควนสะตอ โดยจะมีรถออกทุกชั่วโมง
:: มัสยิดกลางจังหวัดสตูล (มัสยิดมำบัง) ::
ตั้งอยู่บริเวณถนนบุรีวานิช และสตูลธานี ซึ่งอยู่กลางใจเมืองสตูล มีลักษณะเด่นสวยงาม รูปทรง เป็นสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ ตกแต่งด้วยกระเบื้องเคลือบหินอ่อนและกระจกใสตัวอาคารแบ่ง เป็นสองตอน คือ ด้านนอกเป็นระเบียงมีบันไดขึ้นหอคอย ลักษณะเป็นยอดโดม สามารถมอง เห็นทิวทัศน์เมืองสตูลได้ ด้านในเป็นห้องโถงใหญ่ใช้เป็นที่ละหมาด ชั้นล่างมีห้องใต้ดินใช้เป็น ห้องสมุด
:: คฤหาสน์กูเด็น ::
ตั้งอยู่ถนนสตูลธานี ตรงข้ามกับสำนักงานที่ดินจังหวัดสตูล ชาวบ้านส่วนใหญ่เรียกคฤหาสน์หลัง นี้ว่า "ศาลากลางเก่า" รูปทรงเป็นอาคารตึกสองชั้นลักษณะการก่อสร้าง เป็นศิลปะที่ผสมผสาน กันอย่าง สวยงาม คือ อาคารตัวตึกเป็นแบบตะวันตก ประตูหน้าต่างรูปโค้งสถาปัตยกรรมโรมัน หลังคาแบบไทย บานหน้าต่างเป็นแผ่นไม้ชิ้นเล็กๆ เป็นเกล็ดแนวนอน หลังคาใช้กระเบื้องดินเผา รูปกาบกล้วย ช่องลม หน้าบนตกแต่งรูปดาวสถาปัตยกรรมแบบอิสลาม ปัจจุบันคฤหาสน์กูเด็น อยู่ในการดูแลของกรมศิลปากร เป็นโบราณสถานที่สำคัญคู่บ้านคู่เมืองให้ชนรุ่นหลังได้ศึกษา
:: สวนสาธารณะเขาพญาวัง ::
กลางเมืองสตูลด้านปลายถนนคูหาประเวศน์ริมคลองมำบัง มีเขาหินปูนขนาดเล็กสูงประมาณ 30 เมตร ซึ่งเทศบาลเมืองสตูลได้จัดทำเป็นสวนสาธารณะ "โต๊ะพญาวัง หรือ เขาพญาวัง" เป็นที่พักผ่อนและ ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งในเมือง จากปากทางเข้าไปประมาณ 700 เมตร
:: เขาโต๊ะยะกง ::
ตั้งอยู่ใกล้ศาลากลางจังหวัด เป็นภูเขาขนาดเล็ก มีหน้าผา ถ้ำและศาลเจ้าแขก มีคนไปกราบ ไหว้กันมาก เนื่องจากเป็นศาลเจ้าแขกจึงมีข้อห้ามนำหมูไปเซ่นไหว้
:: น้ำตกปาหนัน ::
อยู่เขตตำบลทุ่งนุ้ย อำเภอเมือง น้ำตกแห่งนี้มีทั้งหมด 10 ชั้น รอบบริเวณเป็นป่าไม้ร่มรื่น
:: แหลมตันหยงโปและหาดทรายยาว ::
อยู่ทางปากอ่าวสตูล บริเวณแหลมตันหยงโปและหาดทรายยาวนี้ มีลักษณะเป็นแหลมที่ยื่นล้ำ ไปในทะเลอันดามัน มีหาดทรายยาวสวยงาม ทั่วบริเวณ เต็มไปด้วยมะพร้าวนับพันต้น และหมู่บ้านชาวประมงที่อาศัยอยู่ การเดินทางสามารถเดินทางจากตัวเมืองสตูลไปยังท่าเรือ เจ๊ะบิลัง เป็นระยะทางประมาณ 8 กม. และจะมีทางแยกซ้ายไปยังบ้านตันหยงโปอีกประมาณ 15 กิโลเมตร
:: หมู่เกาะสาหร่าย ::
อยู่ห่างจากท่าเรือเจ๊ะบิลัง อ.เมือง ประมาณ 12 กิโลเมตร นั่งเรือประมาณ 2 ช.ม. หมู่เกาะสาหร่าย นี้มี 2 เกาะใกล้ๆ กัน ชาวเมืองเรียกเกาะยะระโตด และยะระโตด นุ้ย มีชายหาดอยู่โดยรอบเกาะ บนเกาะ มีหมู่บ้านชาวประมง สวนมะพร้าวและสวนยางพารา ใกล้เกาะยะระโตด มีเกาะหาดหอย งาม เป็นที่ซึ่งคลื่นซัดเปลือกหอยไปกองไว้เป็นเกาะ คล้ายสุสานหอย
:: น้ำตกวังสายทอง ::
อยู่ริมถนน ร.พ.ช. สายทุ่งนางแก้ว-วังสายทอง สามารถเดินไปได้ 2 ทาง คือ ทางอำเภอละงู ตรงทางแยกจากถนนสายสตูล-ละงู ที่สามแยกบ้านโกตา ตำบลกำแพง จากจุดนี้ถึงน้ำตก ระยะทางประมาณ 26 กิโลเมตร อีกทางหนึ่งคือทางอำเภอทุ่งหว้า ตรงสามแยกสะพานวา ตำบลป่าแก่บ่อหิน ระยะทางประมาณ 19 กิโลเมตร ความงามของน้ำตกแห่งนี้อยู่ที่แอ่งน้ำ แต่ละชั้นของหินปูน สายน้ำไหลลงมาตามชั้นของน้ำตกซึ่งลักษณะคล้ายดอกบัวบานลดหลั่น กันลงมาในแอ่งที่สวยงาม บริเวณน้ำตกมีต้นไม้ใหญ่ร่มรื่น เหมาะแก่การพักผ่อน
:: เกาะบ่อเจ็ดลูก ::
ตั้งอยู่ห่างจากท่าเรือปากบารา ประมาณ 7 กิโลเมตร บนเกาะมีชายหาดขาวสลับกับโขดหิน รูปร่างแปลกตา บรรยากาศเงียบสงบ อีกทั้งบนเกาะยังมีชุมชนชาวเกาะส่วนใหญ่เป็นครอบครัว ชาวประมง มีความเป็นอยู่เรียบง่ายและมีไมตรี การเดินทางลงเรือที่ท่าเรือปากบารา เป็นเรือ หางยาว ค่าโดยสารคนละประมาณ 20 บาท ไปได้ตลอดปี
:: หาดราไว ::
ตั้งอยู่ที่บ้านราไวใต้ และบ้านราไวเหนือ ตำบลขอนคลาน ห่างจากที่ทำการทุ่งหว้าประมาณ 26 กิโลเมตร ไปตามถนนสายละงู-ทุ่งหว้า ให้แยกที่บ้านวังตง ต.นาทอน โดยใช้เส้นทางหลวง หมายเลข 416
:: ถ้ำเขาทะนาน ::
ลักษณะถ้ำเป็นถ้ำเขาหินปูน ภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อยที่สวยงาม มีทางเดินเข้าถ้ำได้สะดวก และเป็นที่ตั้งของสำนักสงฆ์ด้วย การเดินทางใช้เส้นทางสายสตูล-ละงู-ทุ่งหว้า จากตัวเมืองสตูล ไปสามแยกบ้านฉลุง ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 406 เป็นระยะทางประมาณ 70 กิโลเมตร จากนั้นให้ใช้เส้นทาง 416 ละงู-ทุ่งหว้า ประมาณกิโลเมตรที่ 10 ก็จะถึงถ้ำเขาทะนาน
:: ฝายชลประทานดุสน ::
ตั้งอยู่หมู่ที่ 5 บ้านดุสน ตำบลควนโดน ฝายดุสนเป็นสถานที่เก็บกักน้ำ อยู่ระหว่างหุบเขาและ เหนืออ่างขึ้นไปมีถ้ำสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบปีนป่ายขึ้นไปเพื่อชมความงาม ของทัศนียภาพ บนภูเขา ร่มรื่นไปด้วยเงาไม้อุดมไปด้วยไม้นานาพันธุ์ การเดินทางไปฝายชลประทานดุสน ใช้เส้นทางสายสตูล-หาดใหญ่ บนทางหลวงหมายเลข 406 ห่างจากตัวเมืองประมาณ 22 กิโลเมตร
จ.สุราษฏร์ธานี สถานที่ท่องเที่ยว
เกาะเต่า เกาะพะงัน เกาะสมุย เกาะนางยวน
พิพิธภัณฑ์สถาน
แห่งชาติไชยา สถาบันทักษิณคดีศึกษา
:: เกาะเต่า ::
เป็นเกาะที่ตั้งโดดเดี่ยวในอ่าวไทย อยู่ห่างจากอำเภอเกาะพะงัน 45 กิโลเมตร ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ในอดีตกรมราชทัณฑ์ ได้ใช้เป็นเรือนจำกักขังนักโทษการเมือง (กบฎบวรเดช) สมัยการปกครองของคณะราษฎร์ เกาะเต่ามีประชาชนมาอาศัยตั้งแต่ปี 2490 เป็นเกาะที่มีธรรมชาติและความสมบูรณ์ของชีวิตใต้ทะเล สวยงามด้วยแนวปะการังทั้งน้ำตื้นและน้ำลึก ปลาหลากชนิดสีสวย ๆ มากมาย ที่นักดำน้ำจะต้องนึกถึง และชายหาดที่มีหาดทรายขาวสวยสงบน่าพักผ่อนหลายหาด มีโรงเรียนสอนดำน้ำมากมายที่สามารถ ผลิตนักดำน้ำได้เป็นอันดับ 1 ของประเทศ
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยวเกาะเต่า คือ เดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนเมษายน ส่วนช่วงที่มรสุมที่มีฝนและลมแรงคือ ราวเดือนกันยายนถึงมกราคม บนเกาะมีบังกะโลหลายแบบหลายราคาให้นักท่องเที่ยวได้เลือกพัก การเดินทางบนเกาะเต่า สามารถเดินทางได้ทั้งทางเรือ รถยนต์และรถจักรยานยนต์ มีบริการ 2 เส้นทาง คือ จากท่าเทียบเรือไปทางทิศเหนือถึงหาดทรายรี และไปทางทิศใต้ถึงอ่าวลึก
สถานที่ท่องเที่ยวบนเกาะเต่า และใกล้ ๆ เกาะเต่า :
แหลมหิน จปร. เป็นที่ตั้งของหินสลักพระปรมาภิไธยย่อของรัชกาลที่ 5 ตั้งอยู่ริมหาดทรายรี เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ของ การเสด็จประพาสทางทะเล
แหลมตาโต๊ะ มียอดเขาจุดชมวิว สามารถมองทิวทัศน์ของอ่าวเทียนออกและอ่าวโฉลกบ้านเก่า มีสวนมะพร้าวสลับก้อนหิน
หาดทรายรี เป็นชายหาดที่ยาวที่สุด มีทรายขาว แนวปะการังขนานชายหาด
อ่าวลึก อยู่ด้านตะวันออกเฉียงใต้ ล้อมรอบด้วยหน้าผา มีแหลมหินสวยงาม เป็นแหล่งดำน้ำดูปะการัง
เกาะกงทรายแดง เป็นเกาะขนาดเล็ก มีปะการังและปลาสวยงามมากมายให้ชื่นชม และยังเป็นจุดดำน้ำลึกที่ดีจุดหนึ่ง
อ่าวแหลมเทียน เป็นอ่าวเล็ก ๆ ติดหน้าผา มีโขดหินสวยงาม มีปะการังน้ำตื้น และปลาสีสวยลายแปลก
อ่าวโตนด อยู่ด้านตะวันออกเป็นแหล่งดูปะการัง มีหน้าผาต่อเนื่องไปถึงแหลมเทียน มีทัศนียภาพสวยงาม
กองหินชุมพร กองหินใต้น้ำอยู่ห่างจากเกาะเต่าไปทางชุมพร นั่งเรือประมาณ 90 นาที ปะการังอยู่ในระดับความลึก 120 ฟุต มีปลาชุกชุม
กองหินเขียว อยู่ด้านทิศตะวันตกท้ายเกาะนางยวน ปะการังอยู่ในระดับความลึก 11 ฟุต มีพื้นเป็นสีเขียวหม่น และดอกไม้น้ำสมบูรณ์
กองหินขาว กองหินใต้น้ำอยู่ด้านทิศตะวันตกท้ายเกาะนางยวน ปะการังอยู่ในระดับความลึก 90 ฟุต เป็นกองหินก้อนโต วางพิงเทินกันอยู่ มีดอกไม้ทะเล และปลาชุกชุม
การ เดินทางไปเกาะเต่า
จากกรุงเทพฯ - ชุมพร ประมาณ 6 ชั่วโมง จากตัวเมืองชุมพรเดินทางไปท่าเรือท่ายางประมาณ 7 กม นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มักนิยม มาขี้นเรือไปเกาะเต่า ที่ท่าเรือชุมพร ที่สามารถใช้บริการเรือโดยสาร คือ
ท่าเรือท่ายาง โทร. (077) 533052-4
ห่างจากตัวเมืองราว 7 กม. มีเรือออกไปหาดแม่หาด ทุกวันๆ ละเที่ยว เรือจะออก เวลา 7.00 น. โดยเรือเร็วแถวๆท่ายาง
มีเรือไปประมาณ 3-4 บริษัท แต่ที่นิยมกัน คือ ท่าเรือที่ รร.ท่ายาง (ติดต่อ คุณยง / คุณต่าย ถ้า็พักที่ รร.ท่ายาง ราคา 350 บาท ห้องน้ำในตัว มีแอร์)
ที่พักที่ จันสมชุมพร โรงแรมมีชื่อมานานประจำจังหวัด (แนะนำ สำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกสบาย) ที่โรงแรม มีบริการรถรับส่งถึงท่าเรือ
ประเภทของเรือ :
เรือโดยสารขนาดใหญ่ จุได้ 150-300 คน และ เรือประมงดัดแปลง
รายการ/ประเภทเรือ เรือ ใหญ่ เรือ ประมงดัดแปลง
ราคา/บาท 400-500 150-200
ระยะเวลาในการเดินทาง/ชั่วโมง 1.5-3 6
ออกเดินทางเวลา 7.00 24.00
สถานที่ เรือออกเดินทาง ท่าเรือท่ายาง,อ่าว ทุ่งมะขาม ท่าเรือท่ายาง
บริษัทเดินเรือ
รายการ/ชื่อเรือ เอก วิญญ์ ส่ง เสริม เกาะ เต่า ครุสย์เซอร์
ราคา/บาท 400 400 400
ระยะเวลาเดินทาง/ชั่วโมง 3 3 3
ท่าเรือที่ออก(สถานที่) ท่าเอกวิญญ์(ใกล้ ท่ายาง) ท่ายาง ท่ายาง
สภาพเรือ ดี ดี ดี
เรือออกเวลา
(จากชุมพร-เกาะเต่า) 7.00 7.00 - 7.30 7.00
เรือออกเวลา
(จากเกาะเต่า-ชุมพร) 11.00 15.00 10.30
เรือด่วน (express boat)บริษัท ส่งเสริม รุ่งเรือง มี 3 เส้นทาง คือ
1. เกาะสมุย-เกาะเต่า ระยะทาง 74 กิโลเมตร มีเรือออกจากเกาะสมุย ที่ท่าเรือหน้าทอน เวลา 09.00 น. 11.00 น. และจะแวะพักรับผู้โดยสารที่เกาะพะงัน เวลา 10.00 น., 12.00 น. เป็นเวลา 20 นาที และเดินทางต่อไปยังเกาะเต่า ค่าโดยสารคนละ 350 บาท
2. เกาะพะงัน-เกาะเต่า ระยะทาง 45 กิโลเมตร เรือออกจากเกาะพะงัน (ท่าเรือท้องศาลา) เวลา 12.00 น. ถึงเกาะเต่า (ท่าเรือบ้านแม่หาด) เวลา 13.30 น ค่าโดยสารคนละ 250 บาท
3. ชุมพร-เกาะเต่า ระยะทาง 75 กิโลเมตร เรือออกจากท่าเรือท่ายาง ชุมพร เวลา 07.00 น. ถึงเกาะเต่า เวลา 09.30 น. และเรือออกจากเกาะเต่า เวลา 14.30 น. ถึงชุมพร เวลา 17.30 น. ค่าโดยสารคนละ 400 บาท
สอบถามข้อมูลได้ที่ : บริษัท ส่งเสริม รุ่งเรือง กรุงเทพฯ โทร. 0-2280-7897, ชุมพร โทร. 0-7750-6205, เกาะเต่า โทร. 0-7745-6274, ท่าเรือเกาะพะงัน โทร. 0-7737-7096
เรือนอน ให้บริการ 2 เส้นทาง คือ
เส้นทางที่ 1
- ชุมพร –เกาะเต่า เรือออกจากท่าเรือท่ายาง จังหวัดชุมพร เวลา 24.00 น. ถึงเกาะเต่า เวลา 06.00 น. ค่าโดยสารคนละ 200 บาท
- เกาะเต่า-ชุมพร เรือออกจากเกาะเต่า เวลา 10.00 น. ถึงชุมพร เวลา 15.00 น. ค่าโดยสารคนละ 400 บาท
เส้นทางที่ 2
- สุราษฎร์ธานี-เกาะเต่า เรือออกจากท่าเรือเทศบาล จังหวัดสุราษฎร์ธานี เวลา 2.00 น. ถึงเกาะเต่า เวลา 08.00 น. ค่าโดยสารคนละ 250 บาท
- เกาะเต่า-สุราษฎร์ธานี เรือออกจากเกาะเต่า เวลา 21.00 น. ถึงจังหวัดสุราษฎร์ธานี เวลา 05.00 น. ค่าโดยสารคนละ 250 บาท
เรือธรรมดา เกาะ เต่า-เกาะพะงัน มีบริการวันละ 1 เที่ยว เรือออกจากเกาะเต่า เวลา 14.30 น. ขากลับจากเกาะพะงัน มีเรือออกเวลา 12.00 น. ใช้เวลาเดินทาง 3 ชั่วโมง ค่าโดยสารคนละ 250 บาท
เรือเร็ว (Speed Boat)
1. เกาะสมุย-เกาะเต่า เรือออกจากเกาะสมุย เวลา 08.30 น. และ 12.00 น. ถึงเกาะเต่า เวลา 10.00 น. และ 13.30 น. ค่าโดยสารคนละ 550 บาท
2. เกาะพะงัน-เกาะเต่า เรือออกจากเกาะพะงัน (ท่าเรือท้องศาลา) เวลา 09.00 น. และ 12.30 น. ถึงเกาะเต่า (ท่าเรือบ้านแม่หาด) เวลา 10.00 น. และ 13.30 น. ค่าโดยสารคนละ 350 บาท และ 250 บาท
3. ชุมพร-เกาะเต่า เรือออกจากชุมพร เวลา 07.30 น. ถึงเกาะเต่า เวลา 09.30 น. ค่าโดยสารคนละ 400 บาท
4. เกาะเต่า-เกาะพะงัน เรือออกจากเกาะเต่า เวลา 09.00 น. และ 15.00 น. ถึงเกาะพะงัน เวลา 10.00 น. และ 16.00 น. ค่าโดยสารคนละ 350 บาท และ 250 บาท
5. เกาะเต่า-ชุมพร เรือออกจากเกาะเต่า เวลา 10.30 น. ถึงท่าเรือท่ายาง จังหวัดชุมพร เวลา 12.30 น. ค่าโดยสารคนละ 400 บาท
เรือด่วนเอกวิญญ์
1. ชุมพร-เกาะเต่า เรือออกจากชุมพร เวลา 07.30 น. ถึงเกาะเต่า เวลา 10.30 น. ค่าโดยสารคนละ 400 บาท
2. เกาะเต่า-ชุมพร เรือออกจากเกาะเต่า เวลา 11.00 น. ถึงท่าเรือเอกวิญญ์ (เชิงสะพานท่ายาง) จังหวัดชุมพร เวลา 14.00 น. ค่าโดยสารคนละ 400 บาท
สอบถามข้อมูลการเดินเรือได้ที่ : บริษัท เอกวิญญ์ จำกัด โทร. 0-7650-1821
เรือเร็วลมพระยา บริการเดินเรือเส้นทาง ชุมพร-เกาะเต่า-เกาะพะงัน-เกาะสมุย วันละ 1 เที่ยว
ติดต่อสอบถามได้ที่ : โทร. 0-7745-6176 (สาขาเกาะเต่า) หรือที่ สำนักงานกรุงเทพฯ โทร. 0-2629-2569-70
หรือที่เว็บไซต์ www.lomprayah.com
หมายเหตุ: เวลาเดินเรือและค่าโดยสารอาจมีการเปลี่ยนแปลง
:: เกาะพะงัน ::
อยู่ห่างจากเกาะสมุยไปทางทิศเหนือ ประมาณ 20 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที และอยู่ห่างตัวจังหวัด 100 กิโลเมตร เกาะพะงันมีเนื้อที่ 170 ตารางกิโลเมตร เป็นหนึ่งในจำนวน 48 เกาะที่ตั้งอยู่ในช่องอ่างทอง
ภูมิประเทศของเกาะพะงัน มีภูเขาอยู่ตรงกลางเกาะ ทอดตัวจากทิศเหนือจดทิศใต้ มีที่ราบทางด้านทิศตะวันตกของเกาะ ส่วนทาง ทิศตะวันออกเป็นเทือกเขาจดทะเล บางแห่งก็มีอ่าวเล็กอ่าวน้อยเรือเข้าจอดได้เป็นบางฤดู
ช่วงมรสุม ตั้งแต่เดือนตุลาคม ถึงเดือนมกราคม จะมีลมตะวันออกพัดผ่านซึ่งไม่เหมาะแก่การเดินทางท่องเที่ยว
เกาะพะงันมีชายหาดขาว น้ำทะเลใสน่าเล่นน้ำหลายหาด ร่มรื่นด้วยทิวไม้ริมชายหาด ความเงียบสงบของชายหาดต่าง ๆ บนเกาะเป็น เสน่ห์ที่นักท่องเที่ยวจะได้พบ เกาะพะงัน เป็นเกาะที่มีผู้คนอาศัยอยู่เป็นเวลาช้านาน สันนิษฐานว่าพวกแรกที่มาอยู่บนเกาะพะงันน่าจะ เป็นแขกจากมลายูที่อยู่แถบจังหวัดนครศรีธรรมราชหรือไม่ก็เป็นพวกแขกที่มาจาก ปัตตานีมาอาศัยทำการประมงเป็นหลัก โดยสังเกต จากชื่อของเกาะและสถานที่บางแห่งบนเกาะ
การเดินทางไปเกาะพะงัน
เรือไป เกาะพงัน
ประเภทเรือ บริษัท กทม โทร. บนฝั่ง (สุราษฯ) บนเกาะ พงัน
เรือ เฟอร์รี่ ราชาเฟอร์รี่ - ดอนสัก
077-371151,
077-371205-6 ท้องศาลา
077-3774523
เรือ ด่วน ส่งเสริมทราเวล ถ.ข้าวสาร
02-2811463-5 ท่าทอง
077-285124-6 ท้องศาลา
077-377046,
077-377096
เรือ นอน - - บ้านดอน 077-284928 -
ตารางเดินเรือ สุราษฎร์ธานี-เกาะพะงัน
เที่ยวไป
ประเภทเรือ บริษัท ท่า เรือ เวลา บริการ เวลา เดินทาง (ชม.) ค่า โดยสาร (บาท)
เรือ เฟอร์รี่ ราชาเฟอร์รี่ ดอนสัก 07:00, 10:00
14:00, 17:30 2 120 บาท
เรือ ด่วน ส่งเสริมทราเวล ท่าทอง 08:00 3 205 บาท
เรือ นอน - บ้านดอน 23:00 6 90 บาท
เที่ยวกลับ
ประเภทเรือ บริษัท ท่า เรือ เวลา บริการ เวลา เดินทาง (ชม.) ค่า โดยสาร (บาท)
เรือ เฟอร์รี่ ราชาเฟอร์รี่ ท้องศาลา 07:00, 10:00
13:00, 17:00 2 120 บาท
เรือ ด่วน ส่งเสริมทราเวล ท้องศาลา 12:30 3 205 บาท
เรือ นอน - ท้องศาลา 22:00 6 90 บาท
ตารางเดินเรือ ระหว่าง เกาะสมุย - เกาะพงัน
ต้นทาง ประเภท เรือ บริษัท เวลา บริการ (น.) เวลา เดินทาง (ชม.) ค่า โดยสาร (บาท)
หน้าทอน
(เกาะสมุย) เรือเฟอร์รี่ เฟอร์รี่ไลน์ 18:00 1 1/4 115 บาท
เรือด่วน ส่งเสริมทราเวล 09:00, 11:00,
12:00, 17:30 45 นาที 115 บาท
ท้องศาลา
(เกาะพงัน) เรือเฟอร์รี่ เฟอร์รี่ไลน์ 06:00 1 1/4 115 บาท
เรือด่วน ส่งเสริมทราเวล 07:00, 12:30,
14:00, 16:00 45 นาที 115 บาท
ตารางเดินเรือ ระหว่าง เกาะเต่า - เกาะพงัน
ต้นทาง ประเภทเรือ บริษัท เวลา บริการ (น.) เวลา เดินทาง (ชม.) ค่า โดยสาร (บาท)
แม่ หาด (เกาะเต่า) เรือด่วน ส่งเสริมทราเวล 10:30, 14:00 1 1/2 250
ท้อง ศาลา (เกาะพงัน) เรือด่วน ส่งเสริมทราเวล 10:00, 12:30 1 1/2 250
สถานที่น่าสนใจบนเกาะพะงัน
ท้องศาลา
เป็นชุมชนที่ใหญ่ที่สุดของอำเภอเกาะพะงัน เป็นศูนย์กลางของการติดต่อค้าขายของธุรกิจต่าง ๆ และเป็นที่ตั้งของท่าเรือ โดยสารสำหรับการเดินทางไปสุราษฎร์ธานี เกาะสมุย เกาะเต่า มีธนาคาร บริษัทนำเที่ยว โรงแรม ร้านอาหาร ท่าจอดรถสองแถว
อุทยานแห่งชาติน้ำตกธาร เสด็จ
เดิมชื่อวนอุทยานน้ำตกแพง มีพื้นที่ 41,250 ไร่ รวมพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าเกาะพะงัน และพื้นที่ป่าที่อยู่นอกเขตป่าสงวนแห่งชาติ รวมทั้งเกาะต่าง ๆ ที่อยู่รอบเกาะพะงัน อุทยานฯ ยังคงสภาพของป่าที่สมบูรณ์ มีพืชหลากหลายชนิด และมีกล้วยไม้ที่ลำต้นใหญ่ที่สุด ในโลก ได้แก่ เพชรหึงหรือว่านหางช้าง โดยลำต้นที่มีความสูงกว่าสามเมตร เมื่อออกดอกก้านช่อดอกมีความยาวกว่าสองเมตร ดอกใหญ่ประมาณ 10 เซนติเมตร กลีบดอกสีเขียวจนถึงเหลืองทอง และมีแต้มสีน้ำตาลแดงกระจายไปทั่ว ความสมบูรณ์ของป่าทำให้ มีสัตว์ป่าอาศัยอยู่หลายชนิด อาทิ กวางป่า หมูป่า ค่างแว่นถิ่นใต้ และชะมด รวมทั้งนกต่าง ๆ อุทยานฯ มีต้นไม้ที่เป็นสัญลักษณ์คือ ต้นพะงาหรือต้นวา มียอดเขาที่สูงที่สุดคือยอดเขาหรา สูง 627 เมตร เป็นแหล่งต้นน้ำที่สำคัญของเกาะพะงัน สภาพอากาศเย็นสบาย ตลอดทั้งปี การเดินทาง สามารถเช่ารถจากหาดท้องศาลาซึ่งอยู่ห่างจากอุทยานฯ 5 กิโลเมตร
สถานที่น่าสนใจภายในอุทยานฯ
น้ำตกแพง
เป็นที่ตั้งที่ทำการอุทยานฯ เป็นน้ำตกที่สวยงามมีหลายชั้น เช่น แพงน้อย ธารน้ำรัก ธารกล้วยไม้ เป็นหนึ่งในสายธารเล็กๆ ของ สายน้ำตกแพง (แพง ภาษาถิ่นหมายถึง เพิงหินเล็ก ๆ ที่ลดหลั่นอันแสดงถึงความชุ่มชื้นของผืนป่า) ที่มีน้ำไหลตลอดปีที่แสดงถึง ความสมบูรณ์ของผืนป่า และมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ น้ำตกแพง-จุดชมวิวโดมศิลา ระยะทาง 2.5 กิโลเมตร ใช้เวลา 1 ชั่วโมง เป็นเส้นทางที่เดินเลียบน้ำตก ทางชันเล็กน้อย ในเส้นทางจะพบพรรณไม้ต่าง ๆ ลำธารและน้ำตก ที่ยังคงความเป็นธรรมชาติ รวมทั้งกล้วยไม้เพชรหึง กล้วยไม้ที่เป็นสัญลักษณ์ของอุทยานฯ อีกด้วย
จุดชมวิวโดมศิลา
อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ 500 เมตร เป็นจุดชมวิว และชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงาม
น้ำตกธารเสด็จ
อยู่ตำบลบ้านใต้ เป็นน้ำตกที่รัชกาลที่ 5 เคยเสด็จประพาสและได้พระราชทานนามไว้ อีกทั้งเป็นน้ำตกที่ทรงโปรดมาก โดยได้เสด็จ ประพาสถึง 14 ครั้งตลอดรัชกาล นอกจากนั้น รัชกาลที่ 6 รัชกาลที่ 7 พร้อมพระมเหสี และรัชกาลที่ 9 ก็เคยเสด็จประพาส และได้ จารึกพระปรมาภิไธยย่อไว้ที่ก้อนหินบริเวณน้ำตกทุกพระองค์ การเดินทางไปน้ำตกธารเสด็จ สามารถไปได้ทั้งทางเรือและทางรถ หากเดินทางโดยทางเรือ เมื่อเริ่มเข้าอ่าวธารเสด็จจะพบความงามของภูเขาโขดหินที่มีรูปร่างแปลก ๆ และหาดทรายสีขาว เมื่อขึ้นจากเรือแล้วเดินไปไม่ไกลนักจะพบกับลำธารมีกระแสน้ำไหลผ่านปะทะแก่ง หินที่มีอยู่มากมาย ทำให้เกิดเสียงดังตามความเร็ว ของกระแสน้ำ ช่วงเดือนตุลาคม-มกราคม ไม่สามารถนั่งเรือไปน้ำตกได้ และถ้าเป็นทางรถจะต้องเป็นรถที่มีสมรรถนะสูงจึงจะ สามารถเดินทางไปได้ แต่ถ้าเป็นหน้าฝนการเดินทางจะลำบากมาก เพราะทางที่ผ่านจะเป็นทางลาดชันตลอดและเป็นภูเขาสูง การเดินทางจึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ
อุทยานฯ ไม่มีบ้านพักบริการ แต่มีเต็นท์ให้เช่าหรือจะนำเต็นท์มาเองก็ได้ สอบถามเพิ่มเติมติดต่อ อุทยานแห่งชาติน้ำตกธารเสด็จ เกาะพะงัน ตู้ ป.ณ. 1 อำเภอเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี 84280 โทร. 0 7723 8275
:: เกาะสมุย ::
เกาะที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก อยู่บริเวณอ่าวไทย ห่างจากสุราษฎร์ธานีไปทางทิศตะวันออก 84 กิโลเมตร มีเนื้อที่ 247 ตารางกิโลเมตร ถนนรอบเกาะ (ถนนสายทวีราษฎร์ภักดี) ยาว 52 กิโลเมตร พื้นที่ 1 ใน 3 ของเกาะเป็นที่ราบ ล้อมรอบภูเขา
ฤดูการท่องเที่ยว ช่วงเดือนมกราคม ถึงเดือนพฤษภาคม เป็นช่วงคลื่นลมสงบเหมาะแก่การท่องเที่ยวที่สุด
เกาะสมุย เป็นเกาะที่มีหาดทรายสวยทรายขาวมีชื่อหลายแห่ง อาทิ หาดเฉวง หาดนาเทียน หาดตลิ่งงาม หาดละไม นักท่องเที่ยวที่ ต้องการหาดทราย ทะเล สายลม และแสงแดด ชายหาดที่ทอดยาวขนานไปกับทะเล ต้นมะพร้าวริมชายหาดและน้ำทะเลใสสวย ล้วนเป็นเสน่ห์ที่ทำให้นักท่องเที่ยวที่เคยไปสมุยมาแล้วต้องหวนกลับไปอีก ครั้งแล้วครั้งเล่า อาหารทะเลสด ๆ ก็เป็นอีกเสน่ห์ที่ชวนใ
:: หาดสะกอม ::
ห่างจากตัวเมืองสงขลา ประมาณ 53 กิโลเมตร ไปตามเส้นทางสงขลา-จะนะ-เทพา หาดทรายขาวสะอาดสวยงามมาก นับเป็นสถานที่เหมาะสำหรับการพักผ่อน ตั้งแค้มป์ สามารถเช่าเรือประมงไปเที่ยวเกาะขาม ที่มีปลาชุกชุมเหมาะแก่ผู้ชื่นชอบกีฬาตกปลา อยู่ห่างจากฝั่งประมาณ 2 กิโลเมตร บริเวณหาดแห่งนี้มีร้านอาหารและที่พักบริการ
:: น้ำตกโตนงาช้าง ::
อยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโตนงาช้าง เป็นน้ำตกที่สวยงามแห่งหนึ่งในภาคใต้ อยู่ห่างจากอำเภอหาดใหญ่ประมาณ 28 กิโลเมตร ไปตามเส้นทางหาดใหญ่-รัตภูมิ ถึงหลักกิโลเมตรที่ 13 เลี้ยวซ้ายที่บ้านหูแร่ 13 กิโลเมตร น้ำตกโตนงาช้างมี 7 ชั้น ชั้นที่สวยงามและเป็นชื่อของน้ำตกคือ ชั้นที่ 3 สายน้ำตกไหลแยกกันมาในลักษณะคล้ายงาช้างแยกเป็น 2 ทาง การจะเดินเที่ยวน้ำตกทั้ง 7 ชั้น ต้องใช้เวลาเกือบ 3 ชั่วโมง เพราะทางขึ้นน้ำตกค่อนข้างชัน การเดินทาง จากหาดใหญ่สามารถโดยสารรถสองแถวจากตลาดสดเทศบาลหาดใหญ่ หรือเช่ารถตุ๊กตุ๊ก ราคา 300-400 บาท
:: พิพิธภัณฑ์พธำมรงค์ (พะธำมะรง) ::
ตั้งอยู่ที่ถนนจะนะใกล้กับพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สงขลา ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งบ้านพักเดิมของรองอำมาตย์โทขุนวินิจทัณฑกรรม (บึ้ง ติณสูลานนท์) บิดาของ ฯพณฯ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ พิพิธภัณฑ์ฯ เป็นสถาปัตยกรรมแบบเรือนไทยที่สร้างขึ้นเพื่อจำลองสถานที่เกิดของ ฯพณฯ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ อดีตนายกรัฐมนตรีและรัฐบุรุษซึ่งเป็นชาวจังหวัดสงขลา จากคำบอกเล่าความทรงจำในอดีตสมัยที่บิดาของท่านดำรงตำแหน่งพัสดีเรือนจำ สงขลา “พะทำมะรง” เป็นตำแหน่งเก่าของข้าราชการกรมราชทัณฑ์ ที่มีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานีควบคู่กับตำแหน่งพัสดีปรากฎหลัก ฐานอยู่ในกฎหมายตราสามดวง และอัยการลักษณะต่าง ๆ ตำแหน่งพะทำมะรงได้ใช้ติดต่อกันมาตลอดจนได้มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติ ราชทัณฑ์ พ.ศ. 2479 ตำแหน่งพะทำมะรงจึงได้ถูกยกเลิกไป พิพิธภัณฑ์ฯ เปิดให้เข้าชมทุกวันเว้นวันจันทร์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 08.30-16.00 น.
:: พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สงขลา ::
ตั้งอยู่ที่ถนนวิเชียรชม เป็นสถาปัตยกรรมแบบจีน อายุกว่า 100 ปี เดิมเป็นบ้านพักส่วนตัวของพระยาสุนทรานุรักษ์ (เนตร ณ สงขลา) ผู้ช่วยราชการเมืองสงขลา สร้างเมื่อ พ.ศ. 2421 จนกระทั่งปี พ.ศ. 2437 จึงใช้เป็นที่พำนักและว่าราชการของพระวิจิตรวรศาสตร์ ข้าหลวงพิเศษตรวจราชการเมืองสงขลา ซึ่งต่อมาก็คือเจ้าพระยายมราช (ปั้น สุขุม) หลังจากนั้นใช้เป็นศาลาว่าการมณฑลนครศรีธรรมราชและเป็นศาลากลางจังหวัดจนถึง ปี พ.ศ. 2496
ในปี พ.ศ. 2516 กรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนอาคารนี้เป็นโบราณสถานและปรับปรุงเป็น พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ และเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อ พ.ศ. 2525 ภายในพิพิธภัณฑ์จัดแสดงศิลปวัตถุภาคใต้ตอนล่าง และเป็นแหล่งศึกษาหาความรู้ทางด้านโบราณคดี ประวัติศาสตร์ศิลปะ ชาติพันธุ์วิทยา ศิลปะจีน ศิลปะพื้นบ้านพื้นเมือง อาทิ บานประตูไม้เดิมของจวน เป็นศิลปะพุทธศตวรรษที่ 24 ทำด้วยไม้จำหลักเขียนสีและประดับมุกฝีมือช่างชาวจีนชั้นครู แสดงออกถึงคตินิยมในธรรมเนียมประเพณี วรรณคดี ศาสนาตามแบบจีนที่วิจิตรงดงามยังความสมบูรณ์อยู่มาก โบราณวัตถุสมัยก่อนประวัติศาสตร์แหล่งโบราณคดีจากบ้านเชียง และกาญจนบุรี เปิดให้เข้าชมวันพุธ-วันอาทิตย์ เวลา 09.00-12.00 น. และ 13.00-16.00 น. ค่าเข้าชม ชาวไทย 10 บาท ชาวต่างประเทศ 30 บาท สอบถามเพิ่มเติม โทร. 0 7431 1728
:: สถาบันทักษิณคดีศึกษา ::
ตั้งอยู่หมู่ที่ 1 บ้านอ่าวทราย ตำบลเกาะยอ บริเวณใกล้เชิงสะพานติณสูลานนท์ช่วงที่ 2 สถาบันตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2521 เพื่อศึกษาเกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรมของภาคใต้ มีพื้นที่ทั้งหมด 23 ไร่ ลักษณะของอาคารเป็นสถาปัตยกรรมแบบภาคใต้ แบ่งออกเป็น 4 อาคาร โดยแต่ละอาคารจะแบ่งออกเป็นห้อง ๆ แสดงเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และชาติพันธุ์ โบราณวัตถุที่เกิดจากภูมิปัญญาของคนในท้องถิ่น เครื่องประดับศาตราวุธที่ใช้กันในภาคใต้ เช่น กริช มีดชายธง มีดหางไก่ แสดงผ้าทอพื้นเมือง เช่น ผ้าทอพุมเรียง ผ้าทอปัตตานี ห้องแสดงกระต่ายขูดมะพร้าวรูปทรงต่าง ๆ ที่มีรูปแบบหาชมได้ยาก ห้องแสดงการละเล่นพื้นเมือง เช่น หนังตะลุง โนรา ลิเกป่า ห้องแสดงวิถีชีวิตชาวใต้ เช่น การแสดงการละเล่นและของเล่นเด็ก เช่น การเล่นซัดราว การเล่นว่าว ลูกข่าง ห้องแสดงประเพณีการบวช ห้องแสดงการรักษาพยาบาลแบบโบราณ สถาบันมีห้องพักไว้บริการนักท่องเที่ยว ห้องสัมมนา และร้านขายสินค้าพื้นเมือง เช่น หัตถกรรมกระจูด หัตถกรรมปาหนัน หัตถกรรมย่านลิเพา ผ้าทอเกาะยอ ผลิตภัณฑ์จากเปลือกหอย ผลิตภัณฑ์จากกะลามะพร้าว เครื่องเงิน เป็นต้น สถาบันได้รับรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ประเภทแหล่งท่องเที่ยวดีเด่นทางวัฒนธรรม และโบราณสถาน ปี 2543 จากจุดชมวิวของสถาบันสามารถมองเห็นทัศนียภาพที่สวยงามของทะเลสาบสงขลา เปิดให้ผู้สนใจเข้าชมทุกวัน ระหว่างเวลา 8.30-17.00 น. ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท ชาวต่างประเทศ 50 บาท สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 0 7433 1184-9
การเดินทาง อยู่ห่างจากตัวเมืองสงขลาประมาณ 18 กิโลเมตร ตามทางหลวงสายลพบุรีราเมศวร์ และเลี้ยวซ้ายที่สี่แยกบ้านน้ำกระจาย ไปตามทางหลวงสาย 4146 ทางไปเกาะยอ ใกล้สะพานติณสูลานนท์ ช่วง 2 หรือนั่งรถโดยสารประจำทางจากหอนาฬิกาในตัวเมือง ลงที่สี่แยกบ้านน้ำกระจาย และต่อรถมอเตอร์ไซด์
:: สะพานติณสูลานนท์ ::
เป็นส่วนหนึ่งของทางหลวงหมายเลข 4146 เชื่อมระหว่างทางหลวงหมายเลข 407 สายหาดใหญ่-สงขลา กับทางหลวงหมายเลข 4083 สายสงขลา-ระโนด โดยเป็นสะพานข้ามทะเลสาบสงขลาจากฝั่งบ้านน้ำกระจายผ่านเกาะยอ ไปฝั่งเขาเขียว เพื่ออำนวยความสะดวกในการคมนาคมให้มีความสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้นโดยไม่ต้องรอ ข้ามแพขนานยนต์ บริเวณฝั่งหัวเขาแดง สะพานแบ่งเป็น 2 ช่วง ช่วงแรก เชื่อมระหว่างชายฝั่งอำเภอเมือง สงขลา บริเวณบ้านน้ำกระจาย กับชายฝั่งตอนใต้ของเกาะยอ ความยาวรวมเชิงสะพานทั้งสองด้าน ประมาณ 1,140 เมตร ช่วงที่ 2 เชื่อมระหว่างฝั่งด้านเหนือของเกาะยอกับฝั่งบ้านเขาเขียว ความยาวทั้งสิ้นประมาณ 1,800 เมตร สะพานนี้เริ่มก่อสร้างเมื่อ 26 มีนาคม 2527 และทำพิธีเปิดเมื่อวันที่ 25 กันยายน 2529
:: เขาเก้าเส้ง ::
ห่างจากหาดสมิหลาประมาณ 3 กิโลเมตร โดยใช้เส้นทางไปสถาบันเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งแห่งชาติ มีตำนานเล่าถึงเขาเก้าเส้ง หรือที่เรียกกันในภาษาพื้นเมืองว่า “หัวนายแรง” ว่า “ครั้งนั้นทางเมืองนครศรีธรรมราชกำหนดบรรจุพระบรมสารีริกธาตุในเจดีย์ และจัดงานเฉลิมฉลองใหญ่โต บรรดา 12 หัวเมืองปักษ์ใต้ต่างก็นำเงินทองไปบรรจุในพระบรมธาตุ เมืองที่นายแรงเป็นเจ้าเมืองก็เป็นเมืองขึ้นนครศรีธรรมราชด้วย ประกอบกับนายแรงมีความศรัทธาในพุทธศาสนา จึงขนเงินทองเป็นจำนวนมากถึงเก้าแสนบรรทุกเรือสำเภา พร้อมด้วยไพร่พลออกเดินทางไปเมืองนครศรีธรรมราช ขณะกำลังเดินทางเรือสำเภาถูกคลื่นลมชำรุด จึงเข้าจอดเรือที่ชายฝั่งหาดทรายแห่งหนึ่ง เพื่อซ่อมแซมเรือ พอได้ทราบข่าวว่าทางเมืองนครศรีธรรมราชได้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุเสร็จแล้ว นายแรงเสียใจมาก จึงให้ไพร่พลขนเงินทองบรรจุไว้บนยอดเขาลูกหนึ่ง สั่งให้ลูกเรือตัดหัวของตนไปวางไว้ที่ยอดเขา นายแรงกลั้นใจตาย ลูกเรือต้องจำใจตัดหัวเจ้านายไปวางไว้บนยอดเขาตามคำสั่ง เขาลูกนี้ภายหลังเรียกว่า “เขาเก้าแสน” เรียกเพี้ยนไปเป็น “เก้าเส้ง”ก้อนหินที่ปิดทับบนยอดเขาเรียกว่า“หัวนายแรง” ชาวบ้านเชื่อว่าดวงวิญญานของนายแรงยังเป็นปู่โสมเฝ้าทรัพย์มาจนทุกวันนี้”
:: เกาะยอ ::
เป็นเกาะเล็ก ๆ ในทะเลสาบสงขลา เดินทางโดยข้ามสะพานติณสูลานนท์ ไปตามเส้นทาง จากตัวเมืองใช้ทางหลวงหมายเลข 407 และเลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวง 4083 ทางไปอำเภอสิงหนคร เกาะยอมีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 9,275 ไร่ พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นไหล่เขาและที่ราบตามเชิงเขา เหมาะแก่การเกษตรกรรม บนเกาะยอมีการทำสวนผลไม้แบบสุมรุม หมายถึงผลไม้จะผลัดกันให้ผลผลิตตลอดปี เช่น ส้มโอ มะพร้าว ขนุน ผลไม้ที่มีชื่อของเกาะยอคือ จำปาดะ ลักษณะคล้ายขนุนแต่ลูกเล็กกว่า สามารถนำไปทอดเหมือนกล้วยแขก หรือจะกินสดก็ได้ และผ้าทอเกาะยอ เป็นผ้าพื้นเมืองที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมจากผู้นิยมสวมใส่ผ้าไทย มีลายที่เป็นเอกลักษณ์ เช่น ลายราชวัตถ์ ดอกพิกุล ดอกพะยอม เนื้อผ้าดูแลรักษาง่าย นอกจากนั้นเกาะยอยังเป็นแหล่งเลี้ยงปลากะพงขาวในกระชังในทะเลสาบสงขลาอีก ด้วย
จ.สตูลสถานที่ท่องเที่ยว
:: พายเรือลอดถ้ำข้าม 2 อำเภอที่ถ้ำเจ็ดคต ::
สตูล จังหวัดใต้สุดด้านทะเลอันดามัน ที่รู้จักกันดีคือหมู่เกาะตะรุเตา แต่ที่อำเภอละงู และกิ่งอำเภอมะนัง มีถ้ำใหญ่ น้ำลอดได้อยู่แห่งหนึ่งคือ ถ้ำเจ็ดคตปากถ้ำอยู่กิ่ง อำเภอมะนัง ส่วนหลังถ้ำอยู่ที่อำเภอละงูภายในมีน้ำไหลลอดคดโค้ง ท้าทายให้ นักผจญภัยพายเรือลอดถ้ำ และชมความสวยงามของ หินงอก หินย้อย ถ้าใครพายลอดไปได้ ก็ต้องถือว่าสุดยอด เพราะพายเรือลอดถ้ำข้ามมาตั้ง 2 อำเภอ
พายเรือลอดถ้ำข้าม 2 อำเภอที่ถ้ำเจ็ดคต แผล่งผจญภัยแห่งใหม่ จ.สตูล
ช่วงเวลาที่ดีที่สุด: ช่วงเวลา 11.00 – 12.00 น.
ฤดูกาลที่ดี ที่สุด: เดือนธันวาคม
จุดชมวิวที่ดีที่สุด: ปากถ้ำทั้งสองด้าน
:: เขตชายแดนไทย-มาเลเซีย ::
อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ เพียง 2 กิโลเมตร บริเวณเขตแดนมีหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ ตั้งอยู่ หากเดินทางต่อไปอีกประมาณ 23 กิโลเมตร ก็จะถึงปาดังเบซาร์ ซึ่งมีสินค้าราคาถูกจำหน่าย หรือหากต้องการไปยังเมืองกางะ เมืองหลวงของรัฐเปอร์ลิส ก็สามารถไปได้เพียงเดินทางไปอีกประมาณ 30 กิโลเมตรเท่านั้น ด่านนี้เปิดตั้งแต่ 06.00-19.00 น. และจะมีตลาดนัดทุกวันเสาร์-อาทิตย์ในช่วงเช้า สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 0 7472 2730-1
การเดินทาง จากตัวเมืองสตูลใช้ทางหลวงหมายเลข 406 ระยะทาง 19 กิโลเมตร มีทางแยกขวา ไปตามทางหลวงหมายเลข 4184 กม.ที่ 61-62 ระยะทาง 20 กิโลเมตร หรือนั่งรถสองแถวสตูล-วังประจัน รถจอดที่หน้าโรงแรมแหลมทอง หรือ ขึ้นรถสตูล-เขตแดน ที่บริเวณสามแยกควนสะตอ โดยจะมีรถออกทุกชั่วโมง
:: มัสยิดกลางจังหวัดสตูล (มัสยิดมำบัง) ::
ตั้งอยู่บริเวณถนนบุรีวานิช และสตูลธานี ซึ่งอยู่กลางใจเมืองสตูล มีลักษณะเด่นสวยงาม รูปทรง เป็นสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ ตกแต่งด้วยกระเบื้องเคลือบหินอ่อนและกระจกใสตัวอาคารแบ่ง เป็นสองตอน คือ ด้านนอกเป็นระเบียงมีบันไดขึ้นหอคอย ลักษณะเป็นยอดโดม สามารถมอง เห็นทิวทัศน์เมืองสตูลได้ ด้านในเป็นห้องโถงใหญ่ใช้เป็นที่ละหมาด ชั้นล่างมีห้องใต้ดินใช้เป็น ห้องสมุด
:: คฤหาสน์กูเด็น ::
ตั้งอยู่ถนนสตูลธานี ตรงข้ามกับสำนักงานที่ดินจังหวัดสตูล ชาวบ้านส่วนใหญ่เรียกคฤหาสน์หลัง นี้ว่า "ศาลากลางเก่า" รูปทรงเป็นอาคารตึกสองชั้นลักษณะการก่อสร้าง เป็นศิลปะที่ผสมผสาน กันอย่าง สวยงาม คือ อาคารตัวตึกเป็นแบบตะวันตก ประตูหน้าต่างรูปโค้งสถาปัตยกรรมโรมัน หลังคาแบบไทย บานหน้าต่างเป็นแผ่นไม้ชิ้นเล็กๆ เป็นเกล็ดแนวนอน หลังคาใช้กระเบื้องดินเผา รูปกาบกล้วย ช่องลม หน้าบนตกแต่งรูปดาวสถาปัตยกรรมแบบอิสลาม ปัจจุบันคฤหาสน์กูเด็น อยู่ในการดูแลของกรมศิลปากร เป็นโบราณสถานที่สำคัญคู่บ้านคู่เมืองให้ชนรุ่นหลังได้ศึกษา
:: สวนสาธารณะเขาพญาวัง ::
กลางเมืองสตูลด้านปลายถนนคูหาประเวศน์ริมคลองมำบัง มีเขาหินปูนขนาดเล็กสูงประมาณ 30 เมตร ซึ่งเทศบาลเมืองสตูลได้จัดทำเป็นสวนสาธารณะ "โต๊ะพญาวัง หรือ เขาพญาวัง" เป็นที่พักผ่อนและ ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งในเมือง จากปากทางเข้าไปประมาณ 700 เมตร
:: เขาโต๊ะยะกง ::
ตั้งอยู่ใกล้ศาลากลางจังหวัด เป็นภูเขาขนาดเล็ก มีหน้าผา ถ้ำและศาลเจ้าแขก มีคนไปกราบ ไหว้กันมาก เนื่องจากเป็นศาลเจ้าแขกจึงมีข้อห้ามนำหมูไปเซ่นไหว้
:: น้ำตกปาหนัน ::
อยู่เขตตำบลทุ่งนุ้ย อำเภอเมือง น้ำตกแห่งนี้มีทั้งหมด 10 ชั้น รอบบริเวณเป็นป่าไม้ร่มรื่น
:: แหลมตันหยงโปและหาดทรายยาว ::
อยู่ทางปากอ่าวสตูล บริเวณแหลมตันหยงโปและหาดทรายยาวนี้ มีลักษณะเป็นแหลมที่ยื่นล้ำ ไปในทะเลอันดามัน มีหาดทรายยาวสวยงาม ทั่วบริเวณ เต็มไปด้วยมะพร้าวนับพันต้น และหมู่บ้านชาวประมงที่อาศัยอยู่ การเดินทางสามารถเดินทางจากตัวเมืองสตูลไปยังท่าเรือ เจ๊ะบิลัง เป็นระยะทางประมาณ 8 กม. และจะมีทางแยกซ้ายไปยังบ้านตันหยงโปอีกประมาณ 15 กิโลเมตร
:: หมู่เกาะสาหร่าย ::
อยู่ห่างจากท่าเรือเจ๊ะบิลัง อ.เมือง ประมาณ 12 กิโลเมตร นั่งเรือประมาณ 2 ช.ม. หมู่เกาะสาหร่าย นี้มี 2 เกาะใกล้ๆ กัน ชาวเมืองเรียกเกาะยะระโตด และยะระโตด นุ้ย มีชายหาดอยู่โดยรอบเกาะ บนเกาะ มีหมู่บ้านชาวประมง สวนมะพร้าวและสวนยางพารา ใกล้เกาะยะระโตด มีเกาะหาดหอย งาม เป็นที่ซึ่งคลื่นซัดเปลือกหอยไปกองไว้เป็นเกาะ คล้ายสุสานหอย
:: น้ำตกวังสายทอง ::
อยู่ริมถนน ร.พ.ช. สายทุ่งนางแก้ว-วังสายทอง สามารถเดินไปได้ 2 ทาง คือ ทางอำเภอละงู ตรงทางแยกจากถนนสายสตูล-ละงู ที่สามแยกบ้านโกตา ตำบลกำแพง จากจุดนี้ถึงน้ำตก ระยะทางประมาณ 26 กิโลเมตร อีกทางหนึ่งคือทางอำเภอทุ่งหว้า ตรงสามแยกสะพานวา ตำบลป่าแก่บ่อหิน ระยะทางประมาณ 19 กิโลเมตร ความงามของน้ำตกแห่งนี้อยู่ที่แอ่งน้ำ แต่ละชั้นของหินปูน สายน้ำไหลลงมาตามชั้นของน้ำตกซึ่งลักษณะคล้ายดอกบัวบานลดหลั่น กันลงมาในแอ่งที่สวยงาม บริเวณน้ำตกมีต้นไม้ใหญ่ร่มรื่น เหมาะแก่การพักผ่อน
:: เกาะบ่อเจ็ดลูก ::
ตั้งอยู่ห่างจากท่าเรือปากบารา ประมาณ 7 กิโลเมตร บนเกาะมีชายหาดขาวสลับกับโขดหิน รูปร่างแปลกตา บรรยากาศเงียบสงบ อีกทั้งบนเกาะยังมีชุมชนชาวเกาะส่วนใหญ่เป็นครอบครัว ชาวประมง มีความเป็นอยู่เรียบง่ายและมีไมตรี การเดินทางลงเรือที่ท่าเรือปากบารา เป็นเรือ หางยาว ค่าโดยสารคนละประมาณ 20 บาท ไปได้ตลอดปี
:: หาดราไว ::
ตั้งอยู่ที่บ้านราไวใต้ และบ้านราไวเหนือ ตำบลขอนคลาน ห่างจากที่ทำการทุ่งหว้าประมาณ 26 กิโลเมตร ไปตามถนนสายละงู-ทุ่งหว้า ให้แยกที่บ้านวังตง ต.นาทอน โดยใช้เส้นทางหลวง หมายเลข 416
:: ถ้ำเขาทะนาน ::
ลักษณะถ้ำเป็นถ้ำเขาหินปูน ภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อยที่สวยงาม มีทางเดินเข้าถ้ำได้สะดวก และเป็นที่ตั้งของสำนักสงฆ์ด้วย การเดินทางใช้เส้นทางสายสตูล-ละงู-ทุ่งหว้า จากตัวเมืองสตูล ไปสามแยกบ้านฉลุง ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 406 เป็นระยะทางประมาณ 70 กิโลเมตร จากนั้นให้ใช้เส้นทาง 416 ละงู-ทุ่งหว้า ประมาณกิโลเมตรที่ 10 ก็จะถึงถ้ำเขาทะนาน
:: ฝายชลประทานดุสน ::
ตั้งอยู่หมู่ที่ 5 บ้านดุสน ตำบลควนโดน ฝายดุสนเป็นสถานที่เก็บกักน้ำ อยู่ระหว่างหุบเขาและ เหนืออ่างขึ้นไปมีถ้ำสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบปีนป่ายขึ้นไปเพื่อชมความงาม ของทัศนียภาพ บนภูเขา ร่มรื่นไปด้วยเงาไม้อุดมไปด้วยไม้นานาพันธุ์ การเดินทางไปฝายชลประทานดุสน ใช้เส้นทางสายสตูล-หาดใหญ่ บนทางหลวงหมายเลข 406 ห่างจากตัวเมืองประมาณ 22 กิโลเมตร
จ.สุราษฏร์ธานี สถานที่ท่องเที่ยว
เกาะเต่า เกาะพะงัน เกาะสมุย เกาะนางยวน
พิพิธภัณฑ์สถาน
แห่งชาติไชยา สถาบันทักษิณคดีศึกษา
:: เกาะเต่า ::
เป็นเกาะที่ตั้งโดดเดี่ยวในอ่าวไทย อยู่ห่างจากอำเภอเกาะพะงัน 45 กิโลเมตร ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ในอดีตกรมราชทัณฑ์ ได้ใช้เป็นเรือนจำกักขังนักโทษการเมือง (กบฎบวรเดช) สมัยการปกครองของคณะราษฎร์ เกาะเต่ามีประชาชนมาอาศัยตั้งแต่ปี 2490 เป็นเกาะที่มีธรรมชาติและความสมบูรณ์ของชีวิตใต้ทะเล สวยงามด้วยแนวปะการังทั้งน้ำตื้นและน้ำลึก ปลาหลากชนิดสีสวย ๆ มากมาย ที่นักดำน้ำจะต้องนึกถึง และชายหาดที่มีหาดทรายขาวสวยสงบน่าพักผ่อนหลายหาด มีโรงเรียนสอนดำน้ำมากมายที่สามารถ ผลิตนักดำน้ำได้เป็นอันดับ 1 ของประเทศ
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยวเกาะเต่า คือ เดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนเมษายน ส่วนช่วงที่มรสุมที่มีฝนและลมแรงคือ ราวเดือนกันยายนถึงมกราคม บนเกาะมีบังกะโลหลายแบบหลายราคาให้นักท่องเที่ยวได้เลือกพัก การเดินทางบนเกาะเต่า สามารถเดินทางได้ทั้งทางเรือ รถยนต์และรถจักรยานยนต์ มีบริการ 2 เส้นทาง คือ จากท่าเทียบเรือไปทางทิศเหนือถึงหาดทรายรี และไปทางทิศใต้ถึงอ่าวลึก
สถานที่ท่องเที่ยวบนเกาะเต่า และใกล้ ๆ เกาะเต่า :
แหลมหิน จปร. เป็นที่ตั้งของหินสลักพระปรมาภิไธยย่อของรัชกาลที่ 5 ตั้งอยู่ริมหาดทรายรี เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ของ การเสด็จประพาสทางทะเล
แหลมตาโต๊ะ มียอดเขาจุดชมวิว สามารถมองทิวทัศน์ของอ่าวเทียนออกและอ่าวโฉลกบ้านเก่า มีสวนมะพร้าวสลับก้อนหิน
หาดทรายรี เป็นชายหาดที่ยาวที่สุด มีทรายขาว แนวปะการังขนานชายหาด
อ่าวลึก อยู่ด้านตะวันออกเฉียงใต้ ล้อมรอบด้วยหน้าผา มีแหลมหินสวยงาม เป็นแหล่งดำน้ำดูปะการัง
เกาะกงทรายแดง เป็นเกาะขนาดเล็ก มีปะการังและปลาสวยงามมากมายให้ชื่นชม และยังเป็นจุดดำน้ำลึกที่ดีจุดหนึ่ง
อ่าวแหลมเทียน เป็นอ่าวเล็ก ๆ ติดหน้าผา มีโขดหินสวยงาม มีปะการังน้ำตื้น และปลาสีสวยลายแปลก
อ่าวโตนด อยู่ด้านตะวันออกเป็นแหล่งดูปะการัง มีหน้าผาต่อเนื่องไปถึงแหลมเทียน มีทัศนียภาพสวยงาม
กองหินชุมพร กองหินใต้น้ำอยู่ห่างจากเกาะเต่าไปทางชุมพร นั่งเรือประมาณ 90 นาที ปะการังอยู่ในระดับความลึก 120 ฟุต มีปลาชุกชุม
กองหินเขียว อยู่ด้านทิศตะวันตกท้ายเกาะนางยวน ปะการังอยู่ในระดับความลึก 11 ฟุต มีพื้นเป็นสีเขียวหม่น และดอกไม้น้ำสมบูรณ์
กองหินขาว กองหินใต้น้ำอยู่ด้านทิศตะวันตกท้ายเกาะนางยวน ปะการังอยู่ในระดับความลึก 90 ฟุต เป็นกองหินก้อนโต วางพิงเทินกันอยู่ มีดอกไม้ทะเล และปลาชุกชุม
การ เดินทางไปเกาะเต่า
จากกรุงเทพฯ - ชุมพร ประมาณ 6 ชั่วโมง จากตัวเมืองชุมพรเดินทางไปท่าเรือท่ายางประมาณ 7 กม นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มักนิยม มาขี้นเรือไปเกาะเต่า ที่ท่าเรือชุมพร ที่สามารถใช้บริการเรือโดยสาร คือ
ท่าเรือท่ายาง โทร. (077) 533052-4
ห่างจากตัวเมืองราว 7 กม. มีเรือออกไปหาดแม่หาด ทุกวันๆ ละเที่ยว เรือจะออก เวลา 7.00 น. โดยเรือเร็วแถวๆท่ายาง
มีเรือไปประมาณ 3-4 บริษัท แต่ที่นิยมกัน คือ ท่าเรือที่ รร.ท่ายาง (ติดต่อ คุณยง / คุณต่าย ถ้า็พักที่ รร.ท่ายาง ราคา 350 บาท ห้องน้ำในตัว มีแอร์)
ที่พักที่ จันสมชุมพร โรงแรมมีชื่อมานานประจำจังหวัด (แนะนำ สำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกสบาย) ที่โรงแรม มีบริการรถรับส่งถึงท่าเรือ
ประเภทของเรือ :
เรือโดยสารขนาดใหญ่ จุได้ 150-300 คน และ เรือประมงดัดแปลง
รายการ/ประเภทเรือ เรือ ใหญ่ เรือ ประมงดัดแปลง
ราคา/บาท 400-500 150-200
ระยะเวลาในการเดินทาง/ชั่วโมง 1.5-3 6
ออกเดินทางเวลา 7.00 24.00
สถานที่ เรือออกเดินทาง ท่าเรือท่ายาง,อ่าว ทุ่งมะขาม ท่าเรือท่ายาง
บริษัทเดินเรือ
รายการ/ชื่อเรือ เอก วิญญ์ ส่ง เสริม เกาะ เต่า ครุสย์เซอร์
ราคา/บาท 400 400 400
ระยะเวลาเดินทาง/ชั่วโมง 3 3 3
ท่าเรือที่ออก(สถานที่) ท่าเอกวิญญ์(ใกล้ ท่ายาง) ท่ายาง ท่ายาง
สภาพเรือ ดี ดี ดี
เรือออกเวลา
(จากชุมพร-เกาะเต่า) 7.00 7.00 - 7.30 7.00
เรือออกเวลา
(จากเกาะเต่า-ชุมพร) 11.00 15.00 10.30
เรือด่วน (express boat)บริษัท ส่งเสริม รุ่งเรือง มี 3 เส้นทาง คือ
1. เกาะสมุย-เกาะเต่า ระยะทาง 74 กิโลเมตร มีเรือออกจากเกาะสมุย ที่ท่าเรือหน้าทอน เวลา 09.00 น. 11.00 น. และจะแวะพักรับผู้โดยสารที่เกาะพะงัน เวลา 10.00 น., 12.00 น. เป็นเวลา 20 นาที และเดินทางต่อไปยังเกาะเต่า ค่าโดยสารคนละ 350 บาท
2. เกาะพะงัน-เกาะเต่า ระยะทาง 45 กิโลเมตร เรือออกจากเกาะพะงัน (ท่าเรือท้องศาลา) เวลา 12.00 น. ถึงเกาะเต่า (ท่าเรือบ้านแม่หาด) เวลา 13.30 น ค่าโดยสารคนละ 250 บาท
3. ชุมพร-เกาะเต่า ระยะทาง 75 กิโลเมตร เรือออกจากท่าเรือท่ายาง ชุมพร เวลา 07.00 น. ถึงเกาะเต่า เวลา 09.30 น. และเรือออกจากเกาะเต่า เวลา 14.30 น. ถึงชุมพร เวลา 17.30 น. ค่าโดยสารคนละ 400 บาท
สอบถามข้อมูลได้ที่ : บริษัท ส่งเสริม รุ่งเรือง กรุงเทพฯ โทร. 0-2280-7897, ชุมพร โทร. 0-7750-6205, เกาะเต่า โทร. 0-7745-6274, ท่าเรือเกาะพะงัน โทร. 0-7737-7096
เรือนอน ให้บริการ 2 เส้นทาง คือ
เส้นทางที่ 1
- ชุมพร –เกาะเต่า เรือออกจากท่าเรือท่ายาง จังหวัดชุมพร เวลา 24.00 น. ถึงเกาะเต่า เวลา 06.00 น. ค่าโดยสารคนละ 200 บาท
- เกาะเต่า-ชุมพร เรือออกจากเกาะเต่า เวลา 10.00 น. ถึงชุมพร เวลา 15.00 น. ค่าโดยสารคนละ 400 บาท
เส้นทางที่ 2
- สุราษฎร์ธานี-เกาะเต่า เรือออกจากท่าเรือเทศบาล จังหวัดสุราษฎร์ธานี เวลา 2.00 น. ถึงเกาะเต่า เวลา 08.00 น. ค่าโดยสารคนละ 250 บาท
- เกาะเต่า-สุราษฎร์ธานี เรือออกจากเกาะเต่า เวลา 21.00 น. ถึงจังหวัดสุราษฎร์ธานี เวลา 05.00 น. ค่าโดยสารคนละ 250 บาท
เรือธรรมดา เกาะ เต่า-เกาะพะงัน มีบริการวันละ 1 เที่ยว เรือออกจากเกาะเต่า เวลา 14.30 น. ขากลับจากเกาะพะงัน มีเรือออกเวลา 12.00 น. ใช้เวลาเดินทาง 3 ชั่วโมง ค่าโดยสารคนละ 250 บาท
เรือเร็ว (Speed Boat)
1. เกาะสมุย-เกาะเต่า เรือออกจากเกาะสมุย เวลา 08.30 น. และ 12.00 น. ถึงเกาะเต่า เวลา 10.00 น. และ 13.30 น. ค่าโดยสารคนละ 550 บาท
2. เกาะพะงัน-เกาะเต่า เรือออกจากเกาะพะงัน (ท่าเรือท้องศาลา) เวลา 09.00 น. และ 12.30 น. ถึงเกาะเต่า (ท่าเรือบ้านแม่หาด) เวลา 10.00 น. และ 13.30 น. ค่าโดยสารคนละ 350 บาท และ 250 บาท
3. ชุมพร-เกาะเต่า เรือออกจากชุมพร เวลา 07.30 น. ถึงเกาะเต่า เวลา 09.30 น. ค่าโดยสารคนละ 400 บาท
4. เกาะเต่า-เกาะพะงัน เรือออกจากเกาะเต่า เวลา 09.00 น. และ 15.00 น. ถึงเกาะพะงัน เวลา 10.00 น. และ 16.00 น. ค่าโดยสารคนละ 350 บาท และ 250 บาท
5. เกาะเต่า-ชุมพร เรือออกจากเกาะเต่า เวลา 10.30 น. ถึงท่าเรือท่ายาง จังหวัดชุมพร เวลา 12.30 น. ค่าโดยสารคนละ 400 บาท
เรือด่วนเอกวิญญ์
1. ชุมพร-เกาะเต่า เรือออกจากชุมพร เวลา 07.30 น. ถึงเกาะเต่า เวลา 10.30 น. ค่าโดยสารคนละ 400 บาท
2. เกาะเต่า-ชุมพร เรือออกจากเกาะเต่า เวลา 11.00 น. ถึงท่าเรือเอกวิญญ์ (เชิงสะพานท่ายาง) จังหวัดชุมพร เวลา 14.00 น. ค่าโดยสารคนละ 400 บาท
สอบถามข้อมูลการเดินเรือได้ที่ : บริษัท เอกวิญญ์ จำกัด โทร. 0-7650-1821
เรือเร็วลมพระยา บริการเดินเรือเส้นทาง ชุมพร-เกาะเต่า-เกาะพะงัน-เกาะสมุย วันละ 1 เที่ยว
ติดต่อสอบถามได้ที่ : โทร. 0-7745-6176 (สาขาเกาะเต่า) หรือที่ สำนักงานกรุงเทพฯ โทร. 0-2629-2569-70
หรือที่เว็บไซต์ www.lomprayah.com
หมายเหตุ: เวลาเดินเรือและค่าโดยสารอาจมีการเปลี่ยนแปลง
:: เกาะพะงัน ::
อยู่ห่างจากเกาะสมุยไปทางทิศเหนือ ประมาณ 20 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที และอยู่ห่างตัวจังหวัด 100 กิโลเมตร เกาะพะงันมีเนื้อที่ 170 ตารางกิโลเมตร เป็นหนึ่งในจำนวน 48 เกาะที่ตั้งอยู่ในช่องอ่างทอง
ภูมิประเทศของเกาะพะงัน มีภูเขาอยู่ตรงกลางเกาะ ทอดตัวจากทิศเหนือจดทิศใต้ มีที่ราบทางด้านทิศตะวันตกของเกาะ ส่วนทาง ทิศตะวันออกเป็นเทือกเขาจดทะเล บางแห่งก็มีอ่าวเล็กอ่าวน้อยเรือเข้าจอดได้เป็นบางฤดู
ช่วงมรสุม ตั้งแต่เดือนตุลาคม ถึงเดือนมกราคม จะมีลมตะวันออกพัดผ่านซึ่งไม่เหมาะแก่การเดินทางท่องเที่ยว
เกาะพะงันมีชายหาดขาว น้ำทะเลใสน่าเล่นน้ำหลายหาด ร่มรื่นด้วยทิวไม้ริมชายหาด ความเงียบสงบของชายหาดต่าง ๆ บนเกาะเป็น เสน่ห์ที่นักท่องเที่ยวจะได้พบ เกาะพะงัน เป็นเกาะที่มีผู้คนอาศัยอยู่เป็นเวลาช้านาน สันนิษฐานว่าพวกแรกที่มาอยู่บนเกาะพะงันน่าจะ เป็นแขกจากมลายูที่อยู่แถบจังหวัดนครศรีธรรมราชหรือไม่ก็เป็นพวกแขกที่มาจาก ปัตตานีมาอาศัยทำการประมงเป็นหลัก โดยสังเกต จากชื่อของเกาะและสถานที่บางแห่งบนเกาะ
การเดินทางไปเกาะพะงัน
เรือไป เกาะพงัน
ประเภทเรือ บริษัท กทม โทร. บนฝั่ง (สุราษฯ) บนเกาะ พงัน
เรือ เฟอร์รี่ ราชาเฟอร์รี่ - ดอนสัก
077-371151,
077-371205-6 ท้องศาลา
077-3774523
เรือ ด่วน ส่งเสริมทราเวล ถ.ข้าวสาร
02-2811463-5 ท่าทอง
077-285124-6 ท้องศาลา
077-377046,
077-377096
เรือ นอน - - บ้านดอน 077-284928 -
ตารางเดินเรือ สุราษฎร์ธานี-เกาะพะงัน
เที่ยวไป
ประเภทเรือ บริษัท ท่า เรือ เวลา บริการ เวลา เดินทาง (ชม.) ค่า โดยสาร (บาท)
เรือ เฟอร์รี่ ราชาเฟอร์รี่ ดอนสัก 07:00, 10:00
14:00, 17:30 2 120 บาท
เรือ ด่วน ส่งเสริมทราเวล ท่าทอง 08:00 3 205 บาท
เรือ นอน - บ้านดอน 23:00 6 90 บาท
เที่ยวกลับ
ประเภทเรือ บริษัท ท่า เรือ เวลา บริการ เวลา เดินทาง (ชม.) ค่า โดยสาร (บาท)
เรือ เฟอร์รี่ ราชาเฟอร์รี่ ท้องศาลา 07:00, 10:00
13:00, 17:00 2 120 บาท
เรือ ด่วน ส่งเสริมทราเวล ท้องศาลา 12:30 3 205 บาท
เรือ นอน - ท้องศาลา 22:00 6 90 บาท
ตารางเดินเรือ ระหว่าง เกาะสมุย - เกาะพงัน
ต้นทาง ประเภท เรือ บริษัท เวลา บริการ (น.) เวลา เดินทาง (ชม.) ค่า โดยสาร (บาท)
หน้าทอน
(เกาะสมุย) เรือเฟอร์รี่ เฟอร์รี่ไลน์ 18:00 1 1/4 115 บาท
เรือด่วน ส่งเสริมทราเวล 09:00, 11:00,
12:00, 17:30 45 นาที 115 บาท
ท้องศาลา
(เกาะพงัน) เรือเฟอร์รี่ เฟอร์รี่ไลน์ 06:00 1 1/4 115 บาท
เรือด่วน ส่งเสริมทราเวล 07:00, 12:30,
14:00, 16:00 45 นาที 115 บาท
ตารางเดินเรือ ระหว่าง เกาะเต่า - เกาะพงัน
ต้นทาง ประเภทเรือ บริษัท เวลา บริการ (น.) เวลา เดินทาง (ชม.) ค่า โดยสาร (บาท)
แม่ หาด (เกาะเต่า) เรือด่วน ส่งเสริมทราเวล 10:30, 14:00 1 1/2 250
ท้อง ศาลา (เกาะพงัน) เรือด่วน ส่งเสริมทราเวล 10:00, 12:30 1 1/2 250
สถานที่น่าสนใจบนเกาะพะงัน
ท้องศาลา
เป็นชุมชนที่ใหญ่ที่สุดของอำเภอเกาะพะงัน เป็นศูนย์กลางของการติดต่อค้าขายของธุรกิจต่าง ๆ และเป็นที่ตั้งของท่าเรือ โดยสารสำหรับการเดินทางไปสุราษฎร์ธานี เกาะสมุย เกาะเต่า มีธนาคาร บริษัทนำเที่ยว โรงแรม ร้านอาหาร ท่าจอดรถสองแถว
อุทยานแห่งชาติน้ำตกธาร เสด็จ
เดิมชื่อวนอุทยานน้ำตกแพง มีพื้นที่ 41,250 ไร่ รวมพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าเกาะพะงัน และพื้นที่ป่าที่อยู่นอกเขตป่าสงวนแห่งชาติ รวมทั้งเกาะต่าง ๆ ที่อยู่รอบเกาะพะงัน อุทยานฯ ยังคงสภาพของป่าที่สมบูรณ์ มีพืชหลากหลายชนิด และมีกล้วยไม้ที่ลำต้นใหญ่ที่สุด ในโลก ได้แก่ เพชรหึงหรือว่านหางช้าง โดยลำต้นที่มีความสูงกว่าสามเมตร เมื่อออกดอกก้านช่อดอกมีความยาวกว่าสองเมตร ดอกใหญ่ประมาณ 10 เซนติเมตร กลีบดอกสีเขียวจนถึงเหลืองทอง และมีแต้มสีน้ำตาลแดงกระจายไปทั่ว ความสมบูรณ์ของป่าทำให้ มีสัตว์ป่าอาศัยอยู่หลายชนิด อาทิ กวางป่า หมูป่า ค่างแว่นถิ่นใต้ และชะมด รวมทั้งนกต่าง ๆ อุทยานฯ มีต้นไม้ที่เป็นสัญลักษณ์คือ ต้นพะงาหรือต้นวา มียอดเขาที่สูงที่สุดคือยอดเขาหรา สูง 627 เมตร เป็นแหล่งต้นน้ำที่สำคัญของเกาะพะงัน สภาพอากาศเย็นสบาย ตลอดทั้งปี การเดินทาง สามารถเช่ารถจากหาดท้องศาลาซึ่งอยู่ห่างจากอุทยานฯ 5 กิโลเมตร
สถานที่น่าสนใจภายในอุทยานฯ
น้ำตกแพง
เป็นที่ตั้งที่ทำการอุทยานฯ เป็นน้ำตกที่สวยงามมีหลายชั้น เช่น แพงน้อย ธารน้ำรัก ธารกล้วยไม้ เป็นหนึ่งในสายธารเล็กๆ ของ สายน้ำตกแพง (แพง ภาษาถิ่นหมายถึง เพิงหินเล็ก ๆ ที่ลดหลั่นอันแสดงถึงความชุ่มชื้นของผืนป่า) ที่มีน้ำไหลตลอดปีที่แสดงถึง ความสมบูรณ์ของผืนป่า และมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ น้ำตกแพง-จุดชมวิวโดมศิลา ระยะทาง 2.5 กิโลเมตร ใช้เวลา 1 ชั่วโมง เป็นเส้นทางที่เดินเลียบน้ำตก ทางชันเล็กน้อย ในเส้นทางจะพบพรรณไม้ต่าง ๆ ลำธารและน้ำตก ที่ยังคงความเป็นธรรมชาติ รวมทั้งกล้วยไม้เพชรหึง กล้วยไม้ที่เป็นสัญลักษณ์ของอุทยานฯ อีกด้วย
จุดชมวิวโดมศิลา
อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ 500 เมตร เป็นจุดชมวิว และชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงาม
น้ำตกธารเสด็จ
อยู่ตำบลบ้านใต้ เป็นน้ำตกที่รัชกาลที่ 5 เคยเสด็จประพาสและได้พระราชทานนามไว้ อีกทั้งเป็นน้ำตกที่ทรงโปรดมาก โดยได้เสด็จ ประพาสถึง 14 ครั้งตลอดรัชกาล นอกจากนั้น รัชกาลที่ 6 รัชกาลที่ 7 พร้อมพระมเหสี และรัชกาลที่ 9 ก็เคยเสด็จประพาส และได้ จารึกพระปรมาภิไธยย่อไว้ที่ก้อนหินบริเวณน้ำตกทุกพระองค์ การเดินทางไปน้ำตกธารเสด็จ สามารถไปได้ทั้งทางเรือและทางรถ หากเดินทางโดยทางเรือ เมื่อเริ่มเข้าอ่าวธารเสด็จจะพบความงามของภูเขาโขดหินที่มีรูปร่างแปลก ๆ และหาดทรายสีขาว เมื่อขึ้นจากเรือแล้วเดินไปไม่ไกลนักจะพบกับลำธารมีกระแสน้ำไหลผ่านปะทะแก่ง หินที่มีอยู่มากมาย ทำให้เกิดเสียงดังตามความเร็ว ของกระแสน้ำ ช่วงเดือนตุลาคม-มกราคม ไม่สามารถนั่งเรือไปน้ำตกได้ และถ้าเป็นทางรถจะต้องเป็นรถที่มีสมรรถนะสูงจึงจะ สามารถเดินทางไปได้ แต่ถ้าเป็นหน้าฝนการเดินทางจะลำบากมาก เพราะทางที่ผ่านจะเป็นทางลาดชันตลอดและเป็นภูเขาสูง การเดินทางจึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ
อุทยานฯ ไม่มีบ้านพักบริการ แต่มีเต็นท์ให้เช่าหรือจะนำเต็นท์มาเองก็ได้ สอบถามเพิ่มเติมติดต่อ อุทยานแห่งชาติน้ำตกธารเสด็จ เกาะพะงัน ตู้ ป.ณ. 1 อำเภอเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี 84280 โทร. 0 7723 8275
:: เกาะสมุย ::
เกาะที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก อยู่บริเวณอ่าวไทย ห่างจากสุราษฎร์ธานีไปทางทิศตะวันออก 84 กิโลเมตร มีเนื้อที่ 247 ตารางกิโลเมตร ถนนรอบเกาะ (ถนนสายทวีราษฎร์ภักดี) ยาว 52 กิโลเมตร พื้นที่ 1 ใน 3 ของเกาะเป็นที่ราบ ล้อมรอบภูเขา
ฤดูการท่องเที่ยว ช่วงเดือนมกราคม ถึงเดือนพฤษภาคม เป็นช่วงคลื่นลมสงบเหมาะแก่การท่องเที่ยวที่สุด
เกาะสมุย เป็นเกาะที่มีหาดทรายสวยทรายขาวมีชื่อหลายแห่ง อาทิ หาดเฉวง หาดนาเทียน หาดตลิ่งงาม หาดละไม นักท่องเที่ยวที่ ต้องการหาดทราย ทะเล สายลม และแสงแดด ชายหาดที่ทอดยาวขนานไปกับทะเล ต้นมะพร้าวริมชายหาดและน้ำทะเลใสสวย ล้วนเป็นเสน่ห์ที่ทำให้นักท่องเที่ยวที่เคยไปสมุยมาแล้วต้องหวนกลับไปอีก ครั้งแล้วครั้งเล่า อาหารทะเลสด ๆ ก็เป็นอีกเสน่ห์ที่ชวนใ
หน้า 1 จาก 1
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
|
|