รวมสถานที่ท่องเที่ยวทางภาคใต้จ.กระบี่
หน้า 1 จาก 1
รวมสถานที่ท่องเที่ยวทางภาคใต้จ.กระบี่
สถานที่ท่องเที่ยว
เขาขนาบน้ำ สุสานหอยสี่สิบล้านปี สำนักวิปัสสนาถ้ำเสือเขาแก้ว อ่าวลูกธนู
เกาะพีพี เกาะลันตา
:: ถ้ำพระนาง ::
มุมอัศจรรย์มุมนี้ต้องเดินลึกเข้าไปจนสุดชายหาดอันเป็นที่ตั้ง ของถ้ำพระนาง ด้วยเป็นท่สี ถิตของพระนางอันศักด์สิ ิทธ์ซึ่งชาวเรือแถบนี้เคารพสักการะ มุมมองนี้เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนที่ใด คือเมื่อเข้าไปอยู่ภายในถ้ำมองออกมาจะเห็นปากโพรงถ้ำมีหินย้อยลงมาเป็นฉาก ระย้าสวยงาม มีท้องทะเลกว้างและเกาะน้อยใหญ่เรียงรายในยามพระอาทิตย์ตกจะเป็นมุมมองสวย งาม แปลกตา น่าทึ่งที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองไทย
สุดยอดมุมมองชมพระอาทิตย์ตกได้จากในถ้ำที่ ถ้ำพระนาง จ.กระบี่
ช่วงเวลาที่ดีที่สุด: ช่วงพระอาทิตย์ตก คือประมาณ 18.00 น.
ฤดู กาลที่ดีที่สุด: ฤดูร้อนราวเดือนธันวาคมถึงเดือนมีนาคม
จุดชมวิวที่ดีที่สุด: ด้านในของถ้ำพระนาง
:: เกาะห้อง มหัศจรรย์ธรรมชาติธรรมชาติในป่าเกาะ ::
ในพื้นที่ “ป่าเกาะ” ของจังหวัดกระบี่ เกาะที่ สวยที่สุด คือ เกาะห้อง ซึ่งมีหาดทรายสวยที่สุด ฝูงปลามากมายที่สุด และทะเลในมหัศจรรย์ที่สุด
เกาะห้องเป็นเกาะใหญ่หนึ่งในป่าเกาะ จังหวัดกระบี่ ที่มีเกาะ อยู่มากมายนับร้อยเกาะ เกาะแห่งนี้มีจุดเด่นไม่เหมือนใคร ด้วยชายหาดด้านหน้าเกาะที่โค้งเกือบจะเป็นครึ่งวงกลมร่มรื่น
ด้วยแนวป่าชายหาดด้านหลัง น้ำทะเลที่นี่เป็นสีเทอคอยส์ ชวนให้ลงแหวกว่ายไปกับฝูงปลาแสนเชื่อง และทุกเดือน มีนาคม เกาะแห่งนี้จะเป็นที่รวมของฝูงปลาขนาดเล็กมากมาย ที่มาชุมนุมกันอย่างน่าอัศจรรย์ รวมไปถึงทะเลใน ที่ซ่อนไว้ ซึ่งมุมมองอันวิเศษสุดอีกด้านหนึ่งของเกาะ
เกาะห้อง มหัศจรรย์ธรรมชาติธรรมชาติในป่าเกาะ จ.กระบี่
ช่วงเวลาที่ดีที่สุด: 10.00 - 11.00 น. และ 14.00 - 16.00 น.
ฤดู กาลที่ดีที่สุด: ปลายเดือนธันวาคมถึงเดือนมีนาคม
จุดชมวิวที่ดีที่สุด: ชายหาดด้านหน้าและทะเลใน ซึ่งอยู่ด้านทิศเหนือ
:: เขาขนาบน้ำ ::
เป็นเขาสองลูกสูงประมาณ 100 เมตร ขนาบแม่น้ำกระบี่ด้านหน้าตัวเมือง ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมือง กระบี่ สามารถไปเที่ยวชมได้โดยเช่าเรือหางยาวที่ท่าเรือเจ้าฟ้า ใช้เวลาเดินทางเพียง 15 นาทีเท่านั้น จากนั้นต้องขึ้นบันไดไปชมถ้ำ ภายในมีหินงอกหินย้อย และเคยพบโครงกระดูกมนุษย์จำนวนมากมาย อยู่ในบริเวณนี้ สันนิษฐานว่าอาจจะเป็นโครงกระดูกของกลุ่มคนที่อพยพมาตั้งหลักแหล่งแต่ล้มตาย ลง เนื่องจากเกิดอุทกภัยอย่างฉับพลัน
:: สุสานหอยสี่สิบล้านปี ::
ตั้งอยู่บริเวณชายทะเลบ้านแหลมโพธิ์ ห่างจากตัวเมืองประมาณ 17 กม. ใช้เส้นทางเดียวกับทาง ไปหาดนพรัตน์ธารา เมื่อถึงบ้านไสไทย จะมีป้ายบอกทางไปสุสานหอย บริเวณที่เป็นสุสานหอยแห่งนี้ เดิมเป็นหนองน้ำจืดขนาดใหญ่ มีหอยอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะหอยขม มีขนาดราว 2 ซม. ต่อมาเกิดการเปลี่ยนแปลงบริเวณ พื้นผิวโลก น้ำทะเลไหลเข้ามาท่วมบริเวณหนองน้ำจนหมด ทำให้ธาตุหินปูนในน้ำทะเลหล่อเปลือกหอยใต้น้ำจนเป็นเนื้อเดียวกัน กลายเป็นแผ่นหินแข็งที่เรียกว่า Shelly Limestone หนาประมาณ 40 เซนติเมตร เมื่อแผ่นดินบริเวณนี้ถูกยกตัวขึ้นสูง ซากฟอสซิลเหล่านี้จึง ปรากฏให้เห็นเป็นลานหินกว้างใหญ่ยื่นลงไปในทะเล จากการคำนวณหาอายุทางธรณีวิทยาพบว่า ฟอสซิลนี้มีอายุราว 40 ล้านปี ซึ่งมีเพียง 3 แห่งในโลกเท่านั้น คือที่ประเทศสหรัฐอเมริกา (มลรัฐชิคาโก) ประเทศญี่ปุ่น และประเทศไทย
:: สำนักวิปัสสนาถ้ำเสือเขาแก้ว อ่าวลูกธนู ::
ตั้งอยู่ที่บ้านถ้ำเสือในตำบลกระบี่น้อย ห่างจากตัวเมืองกระบี่ไปตามถนนศรีตรังแล้วแยกซ้ายเข้าถนนราษฎรพัฒนาไปประมาณ 9 กิโลเมตร เหตุที่ได้ชื่อว่า "ถ้ำเสือ" เพราะว่าบริเวณถ้ำด้านหน้าของทิวเขาอ่าวลูกธนูหรือ ที่เรียกว่า "เขาแก้ว" เคยมีเสือโคร่งขนาดใหญ่อาศัยอยู่และภายในถ้ำยังปรากฎหินธรรมชาติเป็นรูปอุ้ง เท้าเสือ สภาพโดยทั่วไปมีลักษณะเป็นสวนป่าแวดล้อมด้วยต้นไม้ใหญ่อายุนับร้อยปี ในหุบเขาคีรีวงศ์ และเนื่องจากมีเขาล้อมอยู่ทุกด้านจึงมีถ้ำเล็ก ถ้ำน้อยอยู่มากมาย เช่น ถ้ำคนธรรพ์ ถ้ำลอด ถ้ำช้างแก้ว ถ้ำลูกธนู ถ้ำพระ เป็นต้น บริเวณนี้นอกจากเป็นที่ตั้งของ สำนักสงฆ์วิปัสสนาแล้ว ยังเป็นแหล่งโบราณคดีที่สำคัญถึงสองสมัยคือ สมัยก่อนประวัติศาสตร์ และสมัยแรกเริ่มประวัติศาสตร์ มีการขุดพบเครื่องมือหิน เศษภาชนะดินเผา พระพิมพ์ดิบเป็นต้น
:: เกาะพีพี :: | แผนที่เกาะพีพี
มรกตกลางอันดามัน ที่ใครหลายคนปรารถนาจะมาเยือน ด้วยความงามของภูเขาหินปูนรูปร่างแปลกตา หาดทรายขาวละเอียด น้ำทะเลสวยใส การเดินทางที่สะดวกสบาย พรั่งพร้อมไปด้วยที่พัก ร้านอาหาร ร้านค้า แหล่งบันเทิง รวมถึง บริการด้านการท่องเที่ยว ที่ครบครัน เป็นสิ่งที่คอยดึงดูดผู้คนจากต่างแดน ให้เดินทางมาสัมผัสกับสวรรค์บนดินแห่งนี้ หมู่เกาะพีพี อยู่ห่างจากอำเภอเมือง 42 กิโลเมตร เป็นหมู่เกาะกลางทะเล ที่อยู่ในเขตรับผิดชอบของอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ซึ่งประกอบด้วยเกาะ 6 เกาะ คือ เกาะพีพีเล เกาะพีพีดอน เกาะยูง เกาะไม้ไผ่ เกาะบิดะนอก และเกาะบิดะใน เล่ากันว่า เดิมชาวทะเลเรียกหมู่เกาะแห่งนี้ว่า "ปูเลาปิอาปิ" คำว่า "ปูเลา" แปลว่าเกาะ คำว่า "ปิอาปิ" แปลว่าต้นไม้ทะเลชนิดหนึ่งจำพวกแสม และโกงกาง ต่อมา เมื่อชาวมุสลิม และผู้คนจาก แผ่นดินใหญ่เข้ามาอยู่ จึงเรียกชื่อเกาะนี้สั้นๆว่า "ปีปี" ซึ่งภายหลังกลายเสียงมาเป็น "พีพี" หมู่เกาะพีพี ได้ชื่อว่าเป็นอาณาจักรแห่งบุปผา ใต้สมุทร นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวหมู่เกาะแห่งนี้ส่วนใหญ่ มาเพื่อดำน้ำดูปะการัง ดอกไม้ทะเล และปลาหลากสีสันที่สวยงาม โดยมีเกาะที่น่าสนใจดังนี้ค่ะ
เกาะพีพีดอน เวิ้ง อ่าวคู่ที่มีความสวยงามติดอันดับโลกของอ่าวต้นไทรและอ่าวโละดาลัม คือความงามที่สร้างชื่อให้เกาะที่มีพื้นที่ ประมาณ 28 ตารางกิโลเมตรแห่งนี้ โด่งดังไปทั่วโลก บริเวณที่ราบแคบๆระหว่างอ่าวทั้งสองที่วาดโค้งเข้าหากันตรงกลางเกาะพีพีดอน นี้ คือ ศูนย์กลางการท่องเที่ยวของเกาะ และถือว่าเป็นสีสันการท่องเที่ยวที่โดดเด่นที่สุดของจังหวัดกระบี่เลยก็ว่า ได้ จากอ่าวต้นไทร เราสามารถเดินขึ้นเขาไปยังจุดชมวิวเพื่อชมทัศนียภาพที่งดงามของเวิ้งอ่าวคู่ ในขณะที่ตะวันลับฟ้าได้เช่นกัน
กิจกรรมในการท่องเที่ยวจำแนกตามความนิยมได้ดังนี้
ดำน้ำตื้น อ่าวที่มีแนวปะการังน้ำตื้นสวยงาม เรียงลำดับจากสภาพสมบูรณ์มากจนถึงสภาพปานกลาง ได้แก่ อ่าวผักหนาม อ่าวรันตี อ่าววังหลง หาดยาว อ่าวต้นไทร อ่าวนุ้ย และอ่าวหยงกาเส็ม นักท่องเที่ยวสามารถเช่าอุปกรณ์ดำน้ำตื้นได้จากร้านดำน้ำบริเวณ อ่าวต้นไทร ราคา 50 บาท/ชิ้น/วัน
ดำน้ำลึก ปะการังบริเวณปลายปีกอ่าวต้นไทรมีความสวยงามและอุดมไปด้วยสัตว์น้ำหลากสีสัน รองลงมาคือ หินแพ อยู่บริเวณหาดยาว เกาะอูฐ อยู่ด้านหน้าอ่าวนุ้ย และอ่าววังหลง ส่วนใหญ่ร้านดำน้ำจะเตรียมอุปกรณ์ดำน้ำลึกให้พร้อมสรรพ โดยคิดรวมไปกับค่าบริการ อยู่แล้ว ติดต่อได้ที่ร้านดำน้ำบริเวณอ่าวต้นไทร ซึ่งมีให้เลือกกว่า 20 ร้าน
เล่นน้ำ พักผ่อน หลายหาดแม้จะไม่มีแนวปะการัง แต่ก็โดดเด่นด้วยความงามของหาดทราย น้ำตื้น เล่นน้ำได้อย่างปลอดภัย และมีบรรยากาศที่เงียบสงบเป็นส่วนตัว เหมาะจะไปนอนพักผ่อนชมธรรมชาติ ได้แก่ อ่าวโละลานะ อ่าวโละบาเกา อ่าวโละดาลัม และอ่าวโละมูดี นอกจากนี้ตามอ่าวต่างๆ ที่เป็นจุดดำน้ำก็มีชายหาดที่สวยงาม สามารถเล่นน้ำหรือนอนพักผ่อนอาบแดดได้เช่นกัน
สำหรับรายละเอียดที่น่าสนใจของแต่ละหาดมีดังนี้
1. แหลมตง อยู่ทางด้านเหนือสุดของเกาะ บริเวณแหลมตงเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านชาวเลซึ่งเป็นคนกลุ่มแรกๆ ที่มาอาศัยอยู่บนเกาะแห่งนี้ พวกเขาอพยพมาจากเกาะหลีเป๊ะ จ. สตูล ปัจจุบันเหลืออยู่ประมาณ 20 ครอบครัว และยังคงดำรงชีวิตแบบเรียบง่าย ปลูกบ้านเป็น กระต๊อบเล็กๆ หากินด้วยการออกหาปลาในท้องทะเล พวกเขามีภาษาพูดเป็นของตนเอง แต่ละวันมีนักท่องเที่ยวมาชมวิถีชีวิตของพวกเขา มิได้ขาด
2. อ่าวโละลานะ เป็นอ่าวที่โค้งลึกเข้าไปในแผ่นดินจนเป็นรูปเกือกม้า บริเวณปลายอ่าวทั้งสองด้านมีขุนเขาโอบล้อม ชายหาดยาว ประมาณ 500 ม. ทรายขาวละเอียด น้ำตื้น เหมาะแก่การลงเล่นน้ำ ปากอ่าวมีแนวปะการังน้ำตื้นอยู่ประปราย เช่น ปะการังแผ่น ปะการังก้อน แต่ไม่ค่อยสวยนัก และมีหินอยู่มาก จึงไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวมาดำน้ำ
3. อ่าวนุ้ย เป็นหาดเล็กๆ ยาวประมาณ 100 ม. มีบรรยากาศที่เงียบสงบ เป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับผู้ต้องการความเป็นส่วนตัว น้ำตื้นและใสมาก หน้าหาดเป็นจุดดำน้ำตื้น มีปะการังเขากวาง ปะการังก้อน แต่ไม่หนาแน่นนัก สภาพสวยงามปานกลาง ด้านหน้าอ่าวนุ้ยเป็นเกาะเล็ก ๆ ชื่อเกาะอูฐ เป็นจุดดำน้ำลึก นอกจากปะการังแข็งแล้ว ยังมีปะการังอ่อนพวกแส้ทะเล ดอกไม้ทะเล อย่างไรก็ตามนักท่องเที่ยวไม่ค่อยนิยมมาดำน้ำลึกตรงจุดนี้ เพราะมีจุดดำน้ำลึกอื่นๆ ที่อยู่ใกล้กว่า
4. อ่าวโละบาเกา ยาวประมาณ 500 ม. ร่มรื่นด้วยทิวมะพร้าว หาดทรายสะอาด น้ำทะเลใส บริเวณนี้มีที่พักเพียงแห่งเดียว บรรยากาศจึงค่อนข้างเงียบสงบ ผู้คนไม่พลุกพล่าน หน้าหาดมีแนวปะการังน้ำตื้นให้ดำดูด้วย แต่ไม่สวยงามนัก
5. อ่าวผักหนาม เป็นหาดเล็กๆ ยาวประมาณ 300 ม. เงียบสงบ ลงเล่นน้ำได้ เลยจากหาดนี้ไปราว 150 ม. มีแนวปะการังต่อเนื่องไปถึงอ่าวรันตี มีความสวยงามและสมบูรณ์ เหมาะจะดำน้ำตื้น
6. อ่าวหยงกาเส็ม เป็นอ่าวขนาดเล็ก ยาวประมาณ 300 ม. นักท่องเที่ยวนิยมมานอนพักผ่อน เล่นน้ำทะเล และดำน้ำตื้นดูปะการังบริเวณหน้าหาด สภาพปะการังสวยงามปานกลาง
7. อ่าวรันตี อยู่ทางด้านตะวันออกของเกาะ เป็นหาดเล็กๆ หาดทรายขาวสะอาด น้ำตื้น จากหน้าหาดออกมาในทะเลราว 150-200 ม. มีแนวปะการังน้ำตื้นที่สมบูรณ์จุดหนึ่ง ระดับน้ำลึกประมาณ 2 ม. ส่วนมากเป็นพวกปะการังจานและปะการังกิ่ง
8. อ่าวโละดาลัม อยู่ตรงข้ามอ่าวต้นไทร เป็นอ่าวที่มีชื่อเสียงไม่แพ้อ่าวต้นไทร นักท่องเที่ยวนิยมมาพักผ่อนที่นี่เช่นกัน เป็นหาดที่มีทิวทัศน์สวยงาม เวิ้งอ่าวกว้างใหญ่ มีขุนเขาโอบล้อมเป็นรูปเกือบม้า ชายหาดยาวประมาณ 1 กม. เม็ดทรายขาวละเอียด เหมาะจะไปนั่งเล่นชมทิวทัศน์ชายหาด หน้าหาดน้ำตื้น เล่นน้ำได้ ยามน้ำลดหาดจะทอดกว้างออกไปจนเกือบถึงปากอ่าว กลายเป็นสนามฟุตบอลและสนามวอลเล่ย์บอลชายหาดของนักท่องเที่ยว แต่ก่อนบริเวณปากอ่าวโละดาลัมเคยเป็นจุดดำน้ำตื้นที่ดีจุดหนึ่ง แต่ปัจจุบันเสื่อมโทรมลงมาก
9. จุดชมวิว อยู่บนยอดเขาทางด้านตะวันออก สูงประมาณ 180 ม. จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ทางขึ้นอยู่ด้านหลังตลาด บริเวณบ่อบำบัดน้ำเสีย จากอ่าวต้นไทรให้เดินไปทางอ่าวโละดาลัมทางทิศตะวันออก ทางไปช่วงแรกนี้ค่อนข้างหายาก เนื่องจากป้ายบอกทางไม่ชัดเจน ควรสอบถามจากคนในพื้นที่ เมื่อถึงตีนเขาแล้วจะเห็นทางขึ้นเป็นบันไดปูนสลับทางดิน เส้นทางไม่ชันมาก ใช้เวลาเดินประมาณ 20-40 นาที ก็ถึง เมื่อขึ้นไปด้านบนจะมองเห็นเวิ้งอ่าวคู่อันงดงาม โดยเฉพาะในยามพระอาทิตย์ตกดิน
10.อ่าวหวังหลง เป็นหาดที่เล็กที่สุด หาดทรายขาวสะอาด บรรยากาศเงียบสงบมาก เหมาะแก่ผู้ต้องการความเป็นส่วนตัว มานอนอาบแดด เล่นน้ำทะล หรือดำน้ำ หน้าหาดมีจุดดำน้ำตื้น มีปะการังหลายประเภท เลยออกไปสามารถดำน้ำลึกได้
11.อ่าวต้นไทร เป็นอ่าวที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวมากที่สุด เป็นที่ตั้งของท่าเรือเฟอร์รี่ที่มาจากกระบี่และภูเก็ต และท่าเรือหางยาว ตัวอ่าวยาวเกือบ 2 กม. ชายหาดกว้าง ทรายขาวสะดาด หลังหาดเป็นทิวมะพร้าวร่มรื่นตลอดหาด นักท่องเที่ยวนิยมมาพักผ่อน นอนอาบแดด และเล่นน้ำทะเล บริเวณปีกของอ่าวทั้งสองข้างเป็นจุดดำน้ำตื้น เลยออกไปทางปลายปีกเป็นจุดดำน้ำลึก ยิ่งไกลชายหาดสภาพความสมบูรณ์ของปะการังจะมีมากขึ้น น้ำก็ใสมากกว่า ทำให้มองเห็นปะการังได้ชัดเจน แต่บางส่วนก็อยู่ในสภาพเสียหาย ปะการังที่พบส่วนมากเป็นปะการังก้อน ปะการังกิ่ง และปะการังจาน จุดดำน้ำลึกที่เด่นที่สุดในอ่าวนี้อยู่ที่ปลายปีกอ่าวฝั่งตะวันตก ใต้ผืนน้ำเป็นหน้าผาดิ่งลึกราว 45 ฟุต มีหอยนางรมขนาดใหญ่ ฟองน้ำ ดอกไม้ทะเล กัลปังหา และแส้ทะเล ที่พื้นของหน้าผามีโพรงลึกเป็นที่อาศัยของปลาหลายชนิด เช่น ปลากะพง ปลาเก๋า เหมาะแก่การถ่ายภาพใต้น้ำ
12.หาดยาว ยาวประมาณ 700 ม. เป็นหาดที่คึกคักหาดหนึ่ง เพราะอยู่ติดกับอ่าวต้นไทร มีที่พักหลายแห่งให้เลือก นักท่องเที่ยวนิยมไปนอนอาบแดด เล่นน้ำทะเลกันมาก หน้าหาดมีปะการังทั้งน้ำตื้นและปะการังน้ำลึกซึ่งเป็นแนวที่ต่อมาจากอ่าวต้น ไทร จุดดำน้ำที่เด่นที่สุดอยู่ที่ปลายหาดด้านทิศตะวันออก เรียกกันว่า "หินแพ" เป็นกองหินใต้น้ำ บริเวณนี้ระดับน้ำจะลึกตั้งแต่ 2-10 ม. พบปะการังสมอง ปะการังกิ่ง ปะการังจาน ปะการังก้อน สามารถดำได้ทั้งแบบน้ำตื้นและน้ำลึก หาดนี้จะเดินจากอ่าวต้นไทรไปได้ แต่ค่อนข้างไกลสักหน่อย
13.อ่าวโละมูดี เป็นหาดที่เงียบสงบ ยาวประมาณ 400 ม. หาดทรายขาวสะอาด น้ำทะเลใส นักท่องเที่ยวนิยมนั่งเรือมาพักผ่อน หรือเดินตามทางเล็กๆ มาจากหาดยาว ระยะทางประมาณ 600 ม.
เกาะพีพีเล พื้นที่ เพียง 6.6 ตารางกิโลเมตร ของเกาะที่เต็มไปด้วยภูเขาหินปูนโดยรอบเกือบทั้งเกาะ หน้าผาสูงชันตั้งฉากกับผิวน้ำทะเลที่มีความลึก เฉลี่ยประมาณ 20 เมตร โดยมีบริเวณที่น้ำลึกสุดประมาณ 34 เมตรอยู่ทางตอนใต้ ทำให้กลายเป็นแหล่งชุมชนของตัวมวลปะการังมากมาย นับแต่แนวด้านตะวันออกเฉียงใต้ ไปตลอดถึงชายฝั่งตะวันออก ในขณะที่บางช่วงเป็นหน้าผามีแนวปะการังเคลือบอยู่เล็กน้อย และยังมีกัลปังหา อีกทั้งหอยมือหมีรวมอยู่ด้วย ปะการังที่เคยหนาแน่นอยู่ในท้องทะเลแถบนี้ เท่าที่มีการสำรวจพบว่าจะเป็นจำพวกปะการังโขดปะการังผิวยู่ยี่ ปะการังดาวใหญ่ ปะการังสีน้ำเงิน ปะการังดอกไม้ทะเล ปะการังถ้วยสมอง ปะการังไฟ ปะการังดอกเห็ด ปะการังเขากวางทรงพุ่มพาน สิ่งต่างๆเหล่านี้ คืออัญมณีเม็ดงามที่ได้ถูกซุกซ่อนไว้ภายในเกาะแห่งนี้ มานานนับแรมปี รอคอยผู้คนมาค้นพบขุมทรัพย์ล้ำค่าแห่งนี้
สำหรับรายละเอียดที่น่าสนใจของแต่ละหาดมีดังนี้
1. ถ้ำไวกิ้ง เมื่อปี พ.ศ. 2515 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เสด็จประพาสถ้ำแห่งนี้ และทรงพระราชทานนามใหม่ว่า "ถ้ำพญานาค" ตามรูปร่างหินก้อนหนึ่งที่คล้ายเศียรพญานาค อันเป็นที่เคารพสักการะของชาวบ้านที่มาเก็บรังนกนางแอ่นบนเกาะแห่งนี้ ภายในถ้ำเป็นห้องโถงขนาดใหญ่ สูงประมาณ 80 เมตร มีหินงอกหินย้อยที่สวยงาม จึงเป็นที่อาศัยของนกนางแอ่น ทางทิศตะวันออกและทิศใต้พบภาพเขียนสีสมัยประวัติศาสตร์ประมาณ 70 ภาพ เป็นรูปช้างและรูปเรือชนิดต่างๆ เช่น เรือใบยุโรป เรือใบอาหรับ เรือสำเภา เรือกำปั่น เรือใบใช้กังหัน และเรือกลไฟ เป็นต้น เนื่องจากภาพส่วนใหญ่เป็นภาพเรือ จึงมีคนคิดว่าเป็นเรือของพวกไวกิ้ง นักรบและนักเดินเรือชาวยุโรป เลยตั้งชื่อว่า "ถ้ำไวกิ้ง" สันนิษฐานว่าภาพเขียนเหล่านี้เป็นฝีมือของนักเดินเรือหรือพวกโจรสลัด เพราะจากการศึกษาเส้นทางเดินเรือจากฝั่งตะวันตกไปยังฝั่งตะวันออก บริเวณนี้อาจเป็นจุดที่เรือสามารถแวะพักหลบลมมรสุมขนถ่ายสินค้าหรือซ่อมแซม เรือได้
2. อ่าวมาหยา เกิดขึ้นด้วยกระบวนการเดียวกันกับอ่าวปิเละ แต่ส่วนหนึ่งของหน้าผาที่โอบล้อมพังทลายกลายเป็นช่องเปิดขนาดใหญ่ เชื่อมต่อกับทะเลภายนอก น้ำทะเลไหลเวียนเข้าออกได้ดี เกาะหินปูนแห่งนี้ยังตั้งอยู่ห่างชายฝั่งหลายสิบกิโลเมตร ตะกอนที่มาจากอ่าวพังงามีอิทธิพลน้อยมาก น้ำทะเลใสช่วยให้แสงส่องผ่านในระดับเหมาะสม ตัวอ่อนของปะการังที่ล่องลอยอยู่ทั่วบริเวณพากันลงเกาะบนหินที่ทับถมอยู่ กลางอ่าว เมื่อยึดที่มั่นได้ แต่ละตัวสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศแบ่งตัวจากหนึ่งเป็นสอง...สองเป็นสี่ เวลาผ่านไปหลายพันปี แนวปะการังขยายขนาดปกคลุมทั่วอ่าวมาหยา ในเวลาเดียวกับที่ทะเลมีการเปลี่ยนแปลง กระบวนการของธรรมชาติยังเกิดขึ้นบนชายฝั่ง ตะกอนทรายตกทับถมรวมกันกลายเป็นหาด ผลของพืชชายทะเลที่ล่องลอยมากับน้ำบ้าง มากับสัตว์ต่างๆ บ้าง เจริญงอกงามกลายเป็นป่าชายหาด กินพื้นที่ตอนในของอ่าวประมาณ 50 ไร่
3. วิ้งอ่าวมาหยา ที่มีพื้นที่หลบอยู่ในภูเขาหินประมาณความยาว 250 เมตรนั้น ส่วนหนึ่งถูกตกแต่งโดยธรรมชาติให้เป็นพื้นที่หาดทรายกว้างประมาณ 5-15 เมตร ทันทีที่ก้าวลงจากเรือและย่ำลงไปบนพื้นหาดทราย จะรู้สึกได้ว่า หาดทรายผืนเล็กผืนนี้ มันช่างนุ่มเท้าและขาวสะอาด ถึงขนาดต้องหลับตาให้ม่านตาได้ทุเลาลงจากแสงแดดที่ส่องสะท้อนขึ้นมากระทบ บ้างในบางครั้ง หากลองย้อนกลับไป ความผ่องใสพิสุทธิ์ เนื้อทรายที่เป็นปุยนุ่มนวลเท้าของหาดทรายแห่งนี้ ล้วนเป็นผลพวงอย่างหนึ่งที่เกิดจาก ซากของปะการังที่ถูกทำลายจนย่อยยับ แหลกละเอียดเป็นชิ้นเป็นผง ตามวัฏจักรแห่งธรรมชาติ ในท้ายที่สุดถึงถูกเกลียวคลื่นสาดซัดขึ้นมากองทับถมมานานนับแรมปี การเดินทางเข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์ของทีมงานต่างประเทศ เรื่อง "เดอะบีช" กลายเป็นสาเหตุของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ สื่อมวลชนแทบจะทุกแขนง ได้พากันนำเสนอข่าวภาพยนตร์เรื่องนี้ ยิ่งกว่านั้น การกำหนดตัว นายลีโอนาโอ ดิ คาปิโอ ที่เขย่าโลกในบทของ "แจ็ค" จากภาพยนตร์เรื่อง "ไททานิค" ให้เป็นตัวพระเอก ยิ่งทำให้ข่าวดังกล่าวลุกกระพือกลายเป็นที่สนใจของประชาชน ด้วยความงามของหาด และความโด่งดังจากภาพยนต์เรื่อง "เดอะบีช" ทำให้ในแต่ละวัน มีนักท่องเที่ยวมาเยือนอ่าวแห่งนี้มากมาย
4. อ่าวปิเละ เมื่อหลายพันหลายหมื่นปีมาแล้ว ผนังถ้ำใต้ทะเลของเกาะแห่งนี้ทนรับน้ำหนักหินปูนหลายหมื่นตันที่อยู่ด้านบน ไม่ไหว ถึงแก่กาลพังทลายยุบตัวลงมาพร้อมกัน เกิดเป็นแอ่งกว้างเกือบเป็นรูปทรงกลม การยุบตัวในลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นทั่วประเทศไทย บางบริเวณที่อยู่บนบก แอ่งใหญ่ที่เกิดขึ้นกลายเป็นบึง เช่น ทะเลบัน (สตูล) บึงแฝด (อุ้มผาง)ฯลฯ ขณะที่แอ่งกลางเกาะในทะเลกลาย เป็น Lagoon หรือ "ทะเลใน" มีถ้ำทะเลเชื่อมต่อกับด้านนอก น้ำทะเลไหลผ่านเข้าถึง ภายในแอ่งเหล่านี้เป็นเสมือนอีกโลกหนึ่งที่โอบล้อมไว้ด้วยผาหินปูนแต่ ครั้งอดีต ไม้ชายเลนเติบโตในที่ตื้นจนกลายเป็นป่าชายเลนขนาดย่อม มนุษย์ใช้ทะเลในเป็นแหล่งท่องเที่ยว หลายแห่งโด่งดังมีชื่อเสียงขจรไกล เช่น ทะเลใน (หมู่เกาะอ่างทอง สุราษฎร์ฯ) ถ้ำมรกต (ตรัง) เกาะห้อง (พังงา)เกาะห้อง (กระบี่) ฯลฯ และรวมถึงสถานที่แห่งนี้ด้วยเช่นกัน เรือแล่นอ้อมหน้าผาสูงใหญ่ จนมาถึงปากทางเข้าแคบๆ ทันทีที่เรือผ่านเข้าไป อ่าวใหญ่ปรากฏตรงหน้า มีหน้าผาสูงชันปิดล้อมเกือบรอบด้าน น้ำทะเลลงต่ำและเรียบกริบ ปราศจากคลื่นลม ดูแล้วช่างเหมือนสระว่ายน้ำที่โรงแรม น้ำทะเลใสสะอาด พื้นน้ำนิ่ง จนมองเห็นพันเห็นหมื่นปะการังอยู่ด้านล่าง ปะการังหลากหลายรูปทรง ทั้งปะการังแผ่น ปะการังเขากวาง ปะการังพุ่ม สีเขียว สีเทา สีฟ้า มีให้เลือกเกือบทุกสี กลายเป็นที่อยู่อาศัยและแหล่งหากินของปลาไม่รู้กี่สิบกี่ร้อยชนิด
5. อ่าวโละซามะ อีกมุมหนึ่งของทะเลอันดามันซึ่งเงียบสงบ กลางท้องน้ำ ท้องฟ้า และภูเขาหินที่ตระหง่านเหนือเวิ้งทะเล บริเวณชายหาดเล็กๆทางด้านขวาทอดตัวอยู่เคียงคู่เกลียวคลื่นที่เคลื่อนตัวตาม ลมพลิ้วไหว โดยมีหมู่แมกไม้พุ่มและไม้เลื้อยสีเขียวสดโลมเลียเข้ามาเป็นส่วนประกอบ ถัดต่อไปในบางส่วน คลื่นทะเลกำลังพัดเข้าปะทะ หน้าผาหินที่ประดับด้วยเรียวหินย้อยที่งามราวกับถูกออกแบบบรรจง แตกตัวกลายเป็นฟองสีขาวสาดกระเซ็นเห็นเป็นภาพที่เหนือกว่างานจิตรกรรมของ จิตรกรใดๆ ในขณะที่ ใต้ผืนน้ำตื้นๆเบื้องล่าง ปะการังแข็งหลายประเภท เช่น ปะการังก้อน ปะการังแผ่น ปะการังถ้วย ได้ใช้โขดหินที่ผุดขึ้นเป็นหย่อมๆเป็นที่สร้างอาณาจักร เลยลึกลงไปใต้ท้องน้ำ คือชุมชนของปะการังอ่อน ดอกไม้ทะเล และแส้ทะเล แม้ว่า เวิ้งอ่าวที่สวยงามแห่งนี้ มีขนาดไม่ใหญ่ และไม่สวยงามเท่าอ่าวมาหยา แต่ความสงบเงียบ ณ ที่แห่งนี้ ได้สร้างจินตนาการให้ล่องลอยเข้าไปสู่ความเคลื่อนไหวของท้องทะเล
การเดินทางไปหมู่เกาะพีพี
การเดินทางไปยังหมู่เกาะพีพีนั้นทำได้หลายทาง สามารถเดินทางไปได้ทั้งจากจังหวัดกระบี่ มีเรือโดยสารออกจากท่าเรือคลองจิหลาด อ่าวนาง และเกาะลันตา และจากจังหวัดภูเก็ตก็มีบริการนำเที่ยวแบบเช้าไปเย็นกลับ ระหว่างภูเก็ต - เกาะพีพีด้วย
กระบี่ - เกาะพีพี ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง ราคา 200 บาท
ออกจากกระบี่ :10.00 น. | 15.00 น.
ออกจากเกาะพีพี :09.00 น. | 13.30 น.
** มีบริการตลอดทั้งปี
ภูเก็ต - เกาะพีพี ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง ราคา 250 บาท
ออกจากภูเก็ต :08.00 น. | 13.00 น.
ออกจากเกาะพีพี :09.00 น. | 14.00 น.
** เที่ยวเวลา 08.00/14.30 น. มีบริการตลอดทั้งปี
เที่ยวเวลา 09.00/13.00 น. มีบริการเฉพาะ เดือนพฤศจิกายน - เดือนพฤษภาคม
หาดนพรัตน์ธารา - เกาะพีพี ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง ราคา 250 บาท
ออกจากหาดนพรัตน์ธารา :09.00 น.
ออกจากเกาะพีพี :15.30 น.
** มีบริการเฉพาะ เดือนพฤศจิกายน - เดือนพฤาภาคม
เกาะลันตา - เกาะพีพี ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง ราคา 200 บาท
ออกจากลันตา :08.00 น.
ออกจากเกาะพีพี : 13.00 น.
** มีบริการเฉพาะ เดือนพฤศจิกายน - เดือนพฤาภาคม
ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับการทัวร์เกาะพีพี
• พีพี แฟมิลี่ โทร. 075-612463
• ส่งเสริมแทรเวล โทร. 075-630471
• ทัวร์ภูเก็ต โทร.(076) 224-538, 01-6078567
• อ่าวนางแทรเวลแอนด์ทัวร์ โทร.075-637152-3, 075-637730
หากไปเป็นกลุ่มใหญ่ 10-20 คน อาจเช่าเรือเร็ว ราคา 7,000-12,000 บาท ค่ะ
:: เกาะลันตา ::
การเดินทางไปเกาะลันตา
จากตัวเมืองกระบี่ใช้ ถนนเพชรเกษม (ทางหลวงหมายเลข4) มุ่งหน้าสู่ จ. ตรัง ผ่าน อ. คลองท่อมถึงหลัก กม. 64 จะพบสามแยก ให้เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 4260 ไปประมาณ 27 กม. จะถึงท่าเรือแพขนานยนต์บ้านหัวหิน โดยสารเรือ ท่าเรือเจ้าฟ้า ขึ้นเรือที่ท่าเรือเจ้าฟ้า ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากตัวเมือง
รอบเรือขาไป มีด้วยกัน 2 รอบ คือ 10.00 น. กับ 13.30 น. ระยะทางประมาณ 50 ก.ม. ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงเศษ มาขึ้นเรือที่ท่าเทียบเรือบ้านศาลาด่าน ค่าโดยสารประมาณท่านละ 200 บาท
รอบเรือขากลับ มี 2 รอบเหมือนกัน คือ 08.00 น. และ 13.00 น. ค่าโดยสารอีกคนละ 20 บาท เรือจะมีบริการในฤดูกาลท่องเที่ยว
ฤดูกาลท่องเที่ยว คือ ตั้งแต่ช่วงเดือนพฤศจิกายนจน - เดือนพฤษภาคมของทุกปี
การไปเกาะลันตาไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิดอีกต่อไป เพราะปัจจุบัน มีเรือแพขนานยนต์ นักท่องเที่ยวสามารถนำรถข้ามไปได้อย่าง สะดวกสบายสามารถนำรถไปแล่นเที่ยว ตามหาดต่างๆบนเกาะ ท่าเรือบ้านหัวหิน เป็นท่าเรือแพขนานยนต์ สามารถนำรถลงแพและ ข้ามไปยังเกาะลันตาน้อย เมื่อขึ้นเกาะแล้วให้แล่นรถไปอีกประมาณ 300 เมตร เจอสามแยกให้เลี้ยวขวาไปตามถนนลาดยางอีก 8 กม. จะเห็นป้ายบอกทางไปแพข้ามฝาก(ท่าเรือหลังสอด)ไปเกาะลันตาใหญ่ ที่ท่าเทียบเรือบ้านศาลาด่านอีกประมาณ 25 นาที ก็จะได้พบกับ โลกอีกโลกที่สวยงาม นั่นคือ โลกแห่งท้องทะเล อัตราค่าโดยสารสำหรับรถยนต์จากท่าเรือแพบ้านหัวหิน ไปเกาะลันตาน้อย คันละ 50 บาท รวมคนขับ และผู้โดยสารคนละ 3 บาท และจากเกาะลันตาน้อย ไปลันตาใหญ่ รถยนต์คันละ 40 บาท ผู้โดยสารไม่ต้องเสียอีก
สนามบินกระบี่ - ท่าเรือเจ้าฟ้า(กระบี่) โดยรถรับส่ง 350 บาท ต่อเที่ยว
ท่าเรือเจ้าฟ้า(กระบี่) - ท่าเรือศาลาด่าน(เกาะลันตา): 200 บาท ต่อ คน: ระยะทาง 50 กม.
เวลา10:30ถึงเกาะลันตา13:00
เวลา13:30ถึงเกาะลันตา16:00
ท่าเรือศาลาด่าน(เกาะลันตา) - ท่าเรือเจ้าฟ้า(กระบี่): 200 บาท ต่อ คน: ระยะทาง 50 กม.
เวลา08:00ถึงท่าเรือเจ้าฟ้า10:30
เวลา13:00ถึงท่าเรือเจ้าฟ้า15:30
สถานีรถไฟ(จ.ตรัง) - เกาะลันตา (รถร่วม) : 200 บาท ต่อ คน
ราคารถรับส่ง จากโรงแรม(ทั่วไป) * ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับระยะทางด้วย
จากสนาบินกระบี่ (ต้องสำรองล่วงหน้า)1,800 บาทต่อ เที่ยว
จากสนามบินภูเก็ต หรือสนามบินสุราษฎร์3,500 บาทต่อ เที่ยว
จาถสนามบินตรัง2,500 บาทต่อ เที่ยว
เรือด่วน
เกาะพีพี - เกาะลันตา 11:00-12:30 ราคา 200 บาท ต่อคน
เกาะลันตา - เกาะพีพี 08:00-09:30 ราคา200 บาท ต่อคน
เกาะลันตา - กระบี่ 08:00-10:30 ราคา250 บาท ต่อคน
กระบี่ - เกาะลันตา 10:30-12:00 ราคา250 บาท ต่อคน
รถตู้โดยสาร
มีรถตู้โดยสารจากตัวเมืองกระบี่ ไปยังเกาะลันตาใหญ่วันละ 3 เที่ยว โดยขึ้นได้ที่ บริษัท ธนาทัวร์ ที่อยู่ตรงข้ามกับโรงแรมซิตี้ ในตัวเมืองกระบี่
ขาไป : รอบรถ คือ ตั้งแต่ 11.00 น. และ 13.00 น. และเที่ยวสุดท้าย 16.00 น.
ขากลับ : จากเกาะลันตาใหญ่มี 2 รอบ คือ 06.30 น. และ 11.00 น.
รถจะจอดอยู่หน้าอาณัติทัวร์บริเวณใกล้กับท่าเทียบเรือบ้านศาลาด่าน อัตราค่าโดยสารอยู่ที่คนละ 120 บาทต่อเที่ยว
เขาขนาบน้ำ สุสานหอยสี่สิบล้านปี สำนักวิปัสสนาถ้ำเสือเขาแก้ว อ่าวลูกธนู
เกาะพีพี เกาะลันตา
:: ถ้ำพระนาง ::
มุมอัศจรรย์มุมนี้ต้องเดินลึกเข้าไปจนสุดชายหาดอันเป็นที่ตั้ง ของถ้ำพระนาง ด้วยเป็นท่สี ถิตของพระนางอันศักด์สิ ิทธ์ซึ่งชาวเรือแถบนี้เคารพสักการะ มุมมองนี้เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนที่ใด คือเมื่อเข้าไปอยู่ภายในถ้ำมองออกมาจะเห็นปากโพรงถ้ำมีหินย้อยลงมาเป็นฉาก ระย้าสวยงาม มีท้องทะเลกว้างและเกาะน้อยใหญ่เรียงรายในยามพระอาทิตย์ตกจะเป็นมุมมองสวย งาม แปลกตา น่าทึ่งที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองไทย
สุดยอดมุมมองชมพระอาทิตย์ตกได้จากในถ้ำที่ ถ้ำพระนาง จ.กระบี่
ช่วงเวลาที่ดีที่สุด: ช่วงพระอาทิตย์ตก คือประมาณ 18.00 น.
ฤดู กาลที่ดีที่สุด: ฤดูร้อนราวเดือนธันวาคมถึงเดือนมีนาคม
จุดชมวิวที่ดีที่สุด: ด้านในของถ้ำพระนาง
:: เกาะห้อง มหัศจรรย์ธรรมชาติธรรมชาติในป่าเกาะ ::
ในพื้นที่ “ป่าเกาะ” ของจังหวัดกระบี่ เกาะที่ สวยที่สุด คือ เกาะห้อง ซึ่งมีหาดทรายสวยที่สุด ฝูงปลามากมายที่สุด และทะเลในมหัศจรรย์ที่สุด
เกาะห้องเป็นเกาะใหญ่หนึ่งในป่าเกาะ จังหวัดกระบี่ ที่มีเกาะ อยู่มากมายนับร้อยเกาะ เกาะแห่งนี้มีจุดเด่นไม่เหมือนใคร ด้วยชายหาดด้านหน้าเกาะที่โค้งเกือบจะเป็นครึ่งวงกลมร่มรื่น
ด้วยแนวป่าชายหาดด้านหลัง น้ำทะเลที่นี่เป็นสีเทอคอยส์ ชวนให้ลงแหวกว่ายไปกับฝูงปลาแสนเชื่อง และทุกเดือน มีนาคม เกาะแห่งนี้จะเป็นที่รวมของฝูงปลาขนาดเล็กมากมาย ที่มาชุมนุมกันอย่างน่าอัศจรรย์ รวมไปถึงทะเลใน ที่ซ่อนไว้ ซึ่งมุมมองอันวิเศษสุดอีกด้านหนึ่งของเกาะ
เกาะห้อง มหัศจรรย์ธรรมชาติธรรมชาติในป่าเกาะ จ.กระบี่
ช่วงเวลาที่ดีที่สุด: 10.00 - 11.00 น. และ 14.00 - 16.00 น.
ฤดู กาลที่ดีที่สุด: ปลายเดือนธันวาคมถึงเดือนมีนาคม
จุดชมวิวที่ดีที่สุด: ชายหาดด้านหน้าและทะเลใน ซึ่งอยู่ด้านทิศเหนือ
:: เขาขนาบน้ำ ::
เป็นเขาสองลูกสูงประมาณ 100 เมตร ขนาบแม่น้ำกระบี่ด้านหน้าตัวเมือง ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมือง กระบี่ สามารถไปเที่ยวชมได้โดยเช่าเรือหางยาวที่ท่าเรือเจ้าฟ้า ใช้เวลาเดินทางเพียง 15 นาทีเท่านั้น จากนั้นต้องขึ้นบันไดไปชมถ้ำ ภายในมีหินงอกหินย้อย และเคยพบโครงกระดูกมนุษย์จำนวนมากมาย อยู่ในบริเวณนี้ สันนิษฐานว่าอาจจะเป็นโครงกระดูกของกลุ่มคนที่อพยพมาตั้งหลักแหล่งแต่ล้มตาย ลง เนื่องจากเกิดอุทกภัยอย่างฉับพลัน
:: สุสานหอยสี่สิบล้านปี ::
ตั้งอยู่บริเวณชายทะเลบ้านแหลมโพธิ์ ห่างจากตัวเมืองประมาณ 17 กม. ใช้เส้นทางเดียวกับทาง ไปหาดนพรัตน์ธารา เมื่อถึงบ้านไสไทย จะมีป้ายบอกทางไปสุสานหอย บริเวณที่เป็นสุสานหอยแห่งนี้ เดิมเป็นหนองน้ำจืดขนาดใหญ่ มีหอยอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะหอยขม มีขนาดราว 2 ซม. ต่อมาเกิดการเปลี่ยนแปลงบริเวณ พื้นผิวโลก น้ำทะเลไหลเข้ามาท่วมบริเวณหนองน้ำจนหมด ทำให้ธาตุหินปูนในน้ำทะเลหล่อเปลือกหอยใต้น้ำจนเป็นเนื้อเดียวกัน กลายเป็นแผ่นหินแข็งที่เรียกว่า Shelly Limestone หนาประมาณ 40 เซนติเมตร เมื่อแผ่นดินบริเวณนี้ถูกยกตัวขึ้นสูง ซากฟอสซิลเหล่านี้จึง ปรากฏให้เห็นเป็นลานหินกว้างใหญ่ยื่นลงไปในทะเล จากการคำนวณหาอายุทางธรณีวิทยาพบว่า ฟอสซิลนี้มีอายุราว 40 ล้านปี ซึ่งมีเพียง 3 แห่งในโลกเท่านั้น คือที่ประเทศสหรัฐอเมริกา (มลรัฐชิคาโก) ประเทศญี่ปุ่น และประเทศไทย
:: สำนักวิปัสสนาถ้ำเสือเขาแก้ว อ่าวลูกธนู ::
ตั้งอยู่ที่บ้านถ้ำเสือในตำบลกระบี่น้อย ห่างจากตัวเมืองกระบี่ไปตามถนนศรีตรังแล้วแยกซ้ายเข้าถนนราษฎรพัฒนาไปประมาณ 9 กิโลเมตร เหตุที่ได้ชื่อว่า "ถ้ำเสือ" เพราะว่าบริเวณถ้ำด้านหน้าของทิวเขาอ่าวลูกธนูหรือ ที่เรียกว่า "เขาแก้ว" เคยมีเสือโคร่งขนาดใหญ่อาศัยอยู่และภายในถ้ำยังปรากฎหินธรรมชาติเป็นรูปอุ้ง เท้าเสือ สภาพโดยทั่วไปมีลักษณะเป็นสวนป่าแวดล้อมด้วยต้นไม้ใหญ่อายุนับร้อยปี ในหุบเขาคีรีวงศ์ และเนื่องจากมีเขาล้อมอยู่ทุกด้านจึงมีถ้ำเล็ก ถ้ำน้อยอยู่มากมาย เช่น ถ้ำคนธรรพ์ ถ้ำลอด ถ้ำช้างแก้ว ถ้ำลูกธนู ถ้ำพระ เป็นต้น บริเวณนี้นอกจากเป็นที่ตั้งของ สำนักสงฆ์วิปัสสนาแล้ว ยังเป็นแหล่งโบราณคดีที่สำคัญถึงสองสมัยคือ สมัยก่อนประวัติศาสตร์ และสมัยแรกเริ่มประวัติศาสตร์ มีการขุดพบเครื่องมือหิน เศษภาชนะดินเผา พระพิมพ์ดิบเป็นต้น
:: เกาะพีพี :: | แผนที่เกาะพีพี
มรกตกลางอันดามัน ที่ใครหลายคนปรารถนาจะมาเยือน ด้วยความงามของภูเขาหินปูนรูปร่างแปลกตา หาดทรายขาวละเอียด น้ำทะเลสวยใส การเดินทางที่สะดวกสบาย พรั่งพร้อมไปด้วยที่พัก ร้านอาหาร ร้านค้า แหล่งบันเทิง รวมถึง บริการด้านการท่องเที่ยว ที่ครบครัน เป็นสิ่งที่คอยดึงดูดผู้คนจากต่างแดน ให้เดินทางมาสัมผัสกับสวรรค์บนดินแห่งนี้ หมู่เกาะพีพี อยู่ห่างจากอำเภอเมือง 42 กิโลเมตร เป็นหมู่เกาะกลางทะเล ที่อยู่ในเขตรับผิดชอบของอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ซึ่งประกอบด้วยเกาะ 6 เกาะ คือ เกาะพีพีเล เกาะพีพีดอน เกาะยูง เกาะไม้ไผ่ เกาะบิดะนอก และเกาะบิดะใน เล่ากันว่า เดิมชาวทะเลเรียกหมู่เกาะแห่งนี้ว่า "ปูเลาปิอาปิ" คำว่า "ปูเลา" แปลว่าเกาะ คำว่า "ปิอาปิ" แปลว่าต้นไม้ทะเลชนิดหนึ่งจำพวกแสม และโกงกาง ต่อมา เมื่อชาวมุสลิม และผู้คนจาก แผ่นดินใหญ่เข้ามาอยู่ จึงเรียกชื่อเกาะนี้สั้นๆว่า "ปีปี" ซึ่งภายหลังกลายเสียงมาเป็น "พีพี" หมู่เกาะพีพี ได้ชื่อว่าเป็นอาณาจักรแห่งบุปผา ใต้สมุทร นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวหมู่เกาะแห่งนี้ส่วนใหญ่ มาเพื่อดำน้ำดูปะการัง ดอกไม้ทะเล และปลาหลากสีสันที่สวยงาม โดยมีเกาะที่น่าสนใจดังนี้ค่ะ
เกาะพีพีดอน เวิ้ง อ่าวคู่ที่มีความสวยงามติดอันดับโลกของอ่าวต้นไทรและอ่าวโละดาลัม คือความงามที่สร้างชื่อให้เกาะที่มีพื้นที่ ประมาณ 28 ตารางกิโลเมตรแห่งนี้ โด่งดังไปทั่วโลก บริเวณที่ราบแคบๆระหว่างอ่าวทั้งสองที่วาดโค้งเข้าหากันตรงกลางเกาะพีพีดอน นี้ คือ ศูนย์กลางการท่องเที่ยวของเกาะ และถือว่าเป็นสีสันการท่องเที่ยวที่โดดเด่นที่สุดของจังหวัดกระบี่เลยก็ว่า ได้ จากอ่าวต้นไทร เราสามารถเดินขึ้นเขาไปยังจุดชมวิวเพื่อชมทัศนียภาพที่งดงามของเวิ้งอ่าวคู่ ในขณะที่ตะวันลับฟ้าได้เช่นกัน
กิจกรรมในการท่องเที่ยวจำแนกตามความนิยมได้ดังนี้
ดำน้ำตื้น อ่าวที่มีแนวปะการังน้ำตื้นสวยงาม เรียงลำดับจากสภาพสมบูรณ์มากจนถึงสภาพปานกลาง ได้แก่ อ่าวผักหนาม อ่าวรันตี อ่าววังหลง หาดยาว อ่าวต้นไทร อ่าวนุ้ย และอ่าวหยงกาเส็ม นักท่องเที่ยวสามารถเช่าอุปกรณ์ดำน้ำตื้นได้จากร้านดำน้ำบริเวณ อ่าวต้นไทร ราคา 50 บาท/ชิ้น/วัน
ดำน้ำลึก ปะการังบริเวณปลายปีกอ่าวต้นไทรมีความสวยงามและอุดมไปด้วยสัตว์น้ำหลากสีสัน รองลงมาคือ หินแพ อยู่บริเวณหาดยาว เกาะอูฐ อยู่ด้านหน้าอ่าวนุ้ย และอ่าววังหลง ส่วนใหญ่ร้านดำน้ำจะเตรียมอุปกรณ์ดำน้ำลึกให้พร้อมสรรพ โดยคิดรวมไปกับค่าบริการ อยู่แล้ว ติดต่อได้ที่ร้านดำน้ำบริเวณอ่าวต้นไทร ซึ่งมีให้เลือกกว่า 20 ร้าน
เล่นน้ำ พักผ่อน หลายหาดแม้จะไม่มีแนวปะการัง แต่ก็โดดเด่นด้วยความงามของหาดทราย น้ำตื้น เล่นน้ำได้อย่างปลอดภัย และมีบรรยากาศที่เงียบสงบเป็นส่วนตัว เหมาะจะไปนอนพักผ่อนชมธรรมชาติ ได้แก่ อ่าวโละลานะ อ่าวโละบาเกา อ่าวโละดาลัม และอ่าวโละมูดี นอกจากนี้ตามอ่าวต่างๆ ที่เป็นจุดดำน้ำก็มีชายหาดที่สวยงาม สามารถเล่นน้ำหรือนอนพักผ่อนอาบแดดได้เช่นกัน
สำหรับรายละเอียดที่น่าสนใจของแต่ละหาดมีดังนี้
1. แหลมตง อยู่ทางด้านเหนือสุดของเกาะ บริเวณแหลมตงเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านชาวเลซึ่งเป็นคนกลุ่มแรกๆ ที่มาอาศัยอยู่บนเกาะแห่งนี้ พวกเขาอพยพมาจากเกาะหลีเป๊ะ จ. สตูล ปัจจุบันเหลืออยู่ประมาณ 20 ครอบครัว และยังคงดำรงชีวิตแบบเรียบง่าย ปลูกบ้านเป็น กระต๊อบเล็กๆ หากินด้วยการออกหาปลาในท้องทะเล พวกเขามีภาษาพูดเป็นของตนเอง แต่ละวันมีนักท่องเที่ยวมาชมวิถีชีวิตของพวกเขา มิได้ขาด
2. อ่าวโละลานะ เป็นอ่าวที่โค้งลึกเข้าไปในแผ่นดินจนเป็นรูปเกือกม้า บริเวณปลายอ่าวทั้งสองด้านมีขุนเขาโอบล้อม ชายหาดยาว ประมาณ 500 ม. ทรายขาวละเอียด น้ำตื้น เหมาะแก่การลงเล่นน้ำ ปากอ่าวมีแนวปะการังน้ำตื้นอยู่ประปราย เช่น ปะการังแผ่น ปะการังก้อน แต่ไม่ค่อยสวยนัก และมีหินอยู่มาก จึงไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวมาดำน้ำ
3. อ่าวนุ้ย เป็นหาดเล็กๆ ยาวประมาณ 100 ม. มีบรรยากาศที่เงียบสงบ เป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับผู้ต้องการความเป็นส่วนตัว น้ำตื้นและใสมาก หน้าหาดเป็นจุดดำน้ำตื้น มีปะการังเขากวาง ปะการังก้อน แต่ไม่หนาแน่นนัก สภาพสวยงามปานกลาง ด้านหน้าอ่าวนุ้ยเป็นเกาะเล็ก ๆ ชื่อเกาะอูฐ เป็นจุดดำน้ำลึก นอกจากปะการังแข็งแล้ว ยังมีปะการังอ่อนพวกแส้ทะเล ดอกไม้ทะเล อย่างไรก็ตามนักท่องเที่ยวไม่ค่อยนิยมมาดำน้ำลึกตรงจุดนี้ เพราะมีจุดดำน้ำลึกอื่นๆ ที่อยู่ใกล้กว่า
4. อ่าวโละบาเกา ยาวประมาณ 500 ม. ร่มรื่นด้วยทิวมะพร้าว หาดทรายสะอาด น้ำทะเลใส บริเวณนี้มีที่พักเพียงแห่งเดียว บรรยากาศจึงค่อนข้างเงียบสงบ ผู้คนไม่พลุกพล่าน หน้าหาดมีแนวปะการังน้ำตื้นให้ดำดูด้วย แต่ไม่สวยงามนัก
5. อ่าวผักหนาม เป็นหาดเล็กๆ ยาวประมาณ 300 ม. เงียบสงบ ลงเล่นน้ำได้ เลยจากหาดนี้ไปราว 150 ม. มีแนวปะการังต่อเนื่องไปถึงอ่าวรันตี มีความสวยงามและสมบูรณ์ เหมาะจะดำน้ำตื้น
6. อ่าวหยงกาเส็ม เป็นอ่าวขนาดเล็ก ยาวประมาณ 300 ม. นักท่องเที่ยวนิยมมานอนพักผ่อน เล่นน้ำทะเล และดำน้ำตื้นดูปะการังบริเวณหน้าหาด สภาพปะการังสวยงามปานกลาง
7. อ่าวรันตี อยู่ทางด้านตะวันออกของเกาะ เป็นหาดเล็กๆ หาดทรายขาวสะอาด น้ำตื้น จากหน้าหาดออกมาในทะเลราว 150-200 ม. มีแนวปะการังน้ำตื้นที่สมบูรณ์จุดหนึ่ง ระดับน้ำลึกประมาณ 2 ม. ส่วนมากเป็นพวกปะการังจานและปะการังกิ่ง
8. อ่าวโละดาลัม อยู่ตรงข้ามอ่าวต้นไทร เป็นอ่าวที่มีชื่อเสียงไม่แพ้อ่าวต้นไทร นักท่องเที่ยวนิยมมาพักผ่อนที่นี่เช่นกัน เป็นหาดที่มีทิวทัศน์สวยงาม เวิ้งอ่าวกว้างใหญ่ มีขุนเขาโอบล้อมเป็นรูปเกือบม้า ชายหาดยาวประมาณ 1 กม. เม็ดทรายขาวละเอียด เหมาะจะไปนั่งเล่นชมทิวทัศน์ชายหาด หน้าหาดน้ำตื้น เล่นน้ำได้ ยามน้ำลดหาดจะทอดกว้างออกไปจนเกือบถึงปากอ่าว กลายเป็นสนามฟุตบอลและสนามวอลเล่ย์บอลชายหาดของนักท่องเที่ยว แต่ก่อนบริเวณปากอ่าวโละดาลัมเคยเป็นจุดดำน้ำตื้นที่ดีจุดหนึ่ง แต่ปัจจุบันเสื่อมโทรมลงมาก
9. จุดชมวิว อยู่บนยอดเขาทางด้านตะวันออก สูงประมาณ 180 ม. จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ทางขึ้นอยู่ด้านหลังตลาด บริเวณบ่อบำบัดน้ำเสีย จากอ่าวต้นไทรให้เดินไปทางอ่าวโละดาลัมทางทิศตะวันออก ทางไปช่วงแรกนี้ค่อนข้างหายาก เนื่องจากป้ายบอกทางไม่ชัดเจน ควรสอบถามจากคนในพื้นที่ เมื่อถึงตีนเขาแล้วจะเห็นทางขึ้นเป็นบันไดปูนสลับทางดิน เส้นทางไม่ชันมาก ใช้เวลาเดินประมาณ 20-40 นาที ก็ถึง เมื่อขึ้นไปด้านบนจะมองเห็นเวิ้งอ่าวคู่อันงดงาม โดยเฉพาะในยามพระอาทิตย์ตกดิน
10.อ่าวหวังหลง เป็นหาดที่เล็กที่สุด หาดทรายขาวสะอาด บรรยากาศเงียบสงบมาก เหมาะแก่ผู้ต้องการความเป็นส่วนตัว มานอนอาบแดด เล่นน้ำทะล หรือดำน้ำ หน้าหาดมีจุดดำน้ำตื้น มีปะการังหลายประเภท เลยออกไปสามารถดำน้ำลึกได้
11.อ่าวต้นไทร เป็นอ่าวที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวมากที่สุด เป็นที่ตั้งของท่าเรือเฟอร์รี่ที่มาจากกระบี่และภูเก็ต และท่าเรือหางยาว ตัวอ่าวยาวเกือบ 2 กม. ชายหาดกว้าง ทรายขาวสะดาด หลังหาดเป็นทิวมะพร้าวร่มรื่นตลอดหาด นักท่องเที่ยวนิยมมาพักผ่อน นอนอาบแดด และเล่นน้ำทะเล บริเวณปีกของอ่าวทั้งสองข้างเป็นจุดดำน้ำตื้น เลยออกไปทางปลายปีกเป็นจุดดำน้ำลึก ยิ่งไกลชายหาดสภาพความสมบูรณ์ของปะการังจะมีมากขึ้น น้ำก็ใสมากกว่า ทำให้มองเห็นปะการังได้ชัดเจน แต่บางส่วนก็อยู่ในสภาพเสียหาย ปะการังที่พบส่วนมากเป็นปะการังก้อน ปะการังกิ่ง และปะการังจาน จุดดำน้ำลึกที่เด่นที่สุดในอ่าวนี้อยู่ที่ปลายปีกอ่าวฝั่งตะวันตก ใต้ผืนน้ำเป็นหน้าผาดิ่งลึกราว 45 ฟุต มีหอยนางรมขนาดใหญ่ ฟองน้ำ ดอกไม้ทะเล กัลปังหา และแส้ทะเล ที่พื้นของหน้าผามีโพรงลึกเป็นที่อาศัยของปลาหลายชนิด เช่น ปลากะพง ปลาเก๋า เหมาะแก่การถ่ายภาพใต้น้ำ
12.หาดยาว ยาวประมาณ 700 ม. เป็นหาดที่คึกคักหาดหนึ่ง เพราะอยู่ติดกับอ่าวต้นไทร มีที่พักหลายแห่งให้เลือก นักท่องเที่ยวนิยมไปนอนอาบแดด เล่นน้ำทะเลกันมาก หน้าหาดมีปะการังทั้งน้ำตื้นและปะการังน้ำลึกซึ่งเป็นแนวที่ต่อมาจากอ่าวต้น ไทร จุดดำน้ำที่เด่นที่สุดอยู่ที่ปลายหาดด้านทิศตะวันออก เรียกกันว่า "หินแพ" เป็นกองหินใต้น้ำ บริเวณนี้ระดับน้ำจะลึกตั้งแต่ 2-10 ม. พบปะการังสมอง ปะการังกิ่ง ปะการังจาน ปะการังก้อน สามารถดำได้ทั้งแบบน้ำตื้นและน้ำลึก หาดนี้จะเดินจากอ่าวต้นไทรไปได้ แต่ค่อนข้างไกลสักหน่อย
13.อ่าวโละมูดี เป็นหาดที่เงียบสงบ ยาวประมาณ 400 ม. หาดทรายขาวสะอาด น้ำทะเลใส นักท่องเที่ยวนิยมนั่งเรือมาพักผ่อน หรือเดินตามทางเล็กๆ มาจากหาดยาว ระยะทางประมาณ 600 ม.
เกาะพีพีเล พื้นที่ เพียง 6.6 ตารางกิโลเมตร ของเกาะที่เต็มไปด้วยภูเขาหินปูนโดยรอบเกือบทั้งเกาะ หน้าผาสูงชันตั้งฉากกับผิวน้ำทะเลที่มีความลึก เฉลี่ยประมาณ 20 เมตร โดยมีบริเวณที่น้ำลึกสุดประมาณ 34 เมตรอยู่ทางตอนใต้ ทำให้กลายเป็นแหล่งชุมชนของตัวมวลปะการังมากมาย นับแต่แนวด้านตะวันออกเฉียงใต้ ไปตลอดถึงชายฝั่งตะวันออก ในขณะที่บางช่วงเป็นหน้าผามีแนวปะการังเคลือบอยู่เล็กน้อย และยังมีกัลปังหา อีกทั้งหอยมือหมีรวมอยู่ด้วย ปะการังที่เคยหนาแน่นอยู่ในท้องทะเลแถบนี้ เท่าที่มีการสำรวจพบว่าจะเป็นจำพวกปะการังโขดปะการังผิวยู่ยี่ ปะการังดาวใหญ่ ปะการังสีน้ำเงิน ปะการังดอกไม้ทะเล ปะการังถ้วยสมอง ปะการังไฟ ปะการังดอกเห็ด ปะการังเขากวางทรงพุ่มพาน สิ่งต่างๆเหล่านี้ คืออัญมณีเม็ดงามที่ได้ถูกซุกซ่อนไว้ภายในเกาะแห่งนี้ มานานนับแรมปี รอคอยผู้คนมาค้นพบขุมทรัพย์ล้ำค่าแห่งนี้
สำหรับรายละเอียดที่น่าสนใจของแต่ละหาดมีดังนี้
1. ถ้ำไวกิ้ง เมื่อปี พ.ศ. 2515 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เสด็จประพาสถ้ำแห่งนี้ และทรงพระราชทานนามใหม่ว่า "ถ้ำพญานาค" ตามรูปร่างหินก้อนหนึ่งที่คล้ายเศียรพญานาค อันเป็นที่เคารพสักการะของชาวบ้านที่มาเก็บรังนกนางแอ่นบนเกาะแห่งนี้ ภายในถ้ำเป็นห้องโถงขนาดใหญ่ สูงประมาณ 80 เมตร มีหินงอกหินย้อยที่สวยงาม จึงเป็นที่อาศัยของนกนางแอ่น ทางทิศตะวันออกและทิศใต้พบภาพเขียนสีสมัยประวัติศาสตร์ประมาณ 70 ภาพ เป็นรูปช้างและรูปเรือชนิดต่างๆ เช่น เรือใบยุโรป เรือใบอาหรับ เรือสำเภา เรือกำปั่น เรือใบใช้กังหัน และเรือกลไฟ เป็นต้น เนื่องจากภาพส่วนใหญ่เป็นภาพเรือ จึงมีคนคิดว่าเป็นเรือของพวกไวกิ้ง นักรบและนักเดินเรือชาวยุโรป เลยตั้งชื่อว่า "ถ้ำไวกิ้ง" สันนิษฐานว่าภาพเขียนเหล่านี้เป็นฝีมือของนักเดินเรือหรือพวกโจรสลัด เพราะจากการศึกษาเส้นทางเดินเรือจากฝั่งตะวันตกไปยังฝั่งตะวันออก บริเวณนี้อาจเป็นจุดที่เรือสามารถแวะพักหลบลมมรสุมขนถ่ายสินค้าหรือซ่อมแซม เรือได้
2. อ่าวมาหยา เกิดขึ้นด้วยกระบวนการเดียวกันกับอ่าวปิเละ แต่ส่วนหนึ่งของหน้าผาที่โอบล้อมพังทลายกลายเป็นช่องเปิดขนาดใหญ่ เชื่อมต่อกับทะเลภายนอก น้ำทะเลไหลเวียนเข้าออกได้ดี เกาะหินปูนแห่งนี้ยังตั้งอยู่ห่างชายฝั่งหลายสิบกิโลเมตร ตะกอนที่มาจากอ่าวพังงามีอิทธิพลน้อยมาก น้ำทะเลใสช่วยให้แสงส่องผ่านในระดับเหมาะสม ตัวอ่อนของปะการังที่ล่องลอยอยู่ทั่วบริเวณพากันลงเกาะบนหินที่ทับถมอยู่ กลางอ่าว เมื่อยึดที่มั่นได้ แต่ละตัวสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศแบ่งตัวจากหนึ่งเป็นสอง...สองเป็นสี่ เวลาผ่านไปหลายพันปี แนวปะการังขยายขนาดปกคลุมทั่วอ่าวมาหยา ในเวลาเดียวกับที่ทะเลมีการเปลี่ยนแปลง กระบวนการของธรรมชาติยังเกิดขึ้นบนชายฝั่ง ตะกอนทรายตกทับถมรวมกันกลายเป็นหาด ผลของพืชชายทะเลที่ล่องลอยมากับน้ำบ้าง มากับสัตว์ต่างๆ บ้าง เจริญงอกงามกลายเป็นป่าชายหาด กินพื้นที่ตอนในของอ่าวประมาณ 50 ไร่
3. วิ้งอ่าวมาหยา ที่มีพื้นที่หลบอยู่ในภูเขาหินประมาณความยาว 250 เมตรนั้น ส่วนหนึ่งถูกตกแต่งโดยธรรมชาติให้เป็นพื้นที่หาดทรายกว้างประมาณ 5-15 เมตร ทันทีที่ก้าวลงจากเรือและย่ำลงไปบนพื้นหาดทราย จะรู้สึกได้ว่า หาดทรายผืนเล็กผืนนี้ มันช่างนุ่มเท้าและขาวสะอาด ถึงขนาดต้องหลับตาให้ม่านตาได้ทุเลาลงจากแสงแดดที่ส่องสะท้อนขึ้นมากระทบ บ้างในบางครั้ง หากลองย้อนกลับไป ความผ่องใสพิสุทธิ์ เนื้อทรายที่เป็นปุยนุ่มนวลเท้าของหาดทรายแห่งนี้ ล้วนเป็นผลพวงอย่างหนึ่งที่เกิดจาก ซากของปะการังที่ถูกทำลายจนย่อยยับ แหลกละเอียดเป็นชิ้นเป็นผง ตามวัฏจักรแห่งธรรมชาติ ในท้ายที่สุดถึงถูกเกลียวคลื่นสาดซัดขึ้นมากองทับถมมานานนับแรมปี การเดินทางเข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์ของทีมงานต่างประเทศ เรื่อง "เดอะบีช" กลายเป็นสาเหตุของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ สื่อมวลชนแทบจะทุกแขนง ได้พากันนำเสนอข่าวภาพยนตร์เรื่องนี้ ยิ่งกว่านั้น การกำหนดตัว นายลีโอนาโอ ดิ คาปิโอ ที่เขย่าโลกในบทของ "แจ็ค" จากภาพยนตร์เรื่อง "ไททานิค" ให้เป็นตัวพระเอก ยิ่งทำให้ข่าวดังกล่าวลุกกระพือกลายเป็นที่สนใจของประชาชน ด้วยความงามของหาด และความโด่งดังจากภาพยนต์เรื่อง "เดอะบีช" ทำให้ในแต่ละวัน มีนักท่องเที่ยวมาเยือนอ่าวแห่งนี้มากมาย
4. อ่าวปิเละ เมื่อหลายพันหลายหมื่นปีมาแล้ว ผนังถ้ำใต้ทะเลของเกาะแห่งนี้ทนรับน้ำหนักหินปูนหลายหมื่นตันที่อยู่ด้านบน ไม่ไหว ถึงแก่กาลพังทลายยุบตัวลงมาพร้อมกัน เกิดเป็นแอ่งกว้างเกือบเป็นรูปทรงกลม การยุบตัวในลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นทั่วประเทศไทย บางบริเวณที่อยู่บนบก แอ่งใหญ่ที่เกิดขึ้นกลายเป็นบึง เช่น ทะเลบัน (สตูล) บึงแฝด (อุ้มผาง)ฯลฯ ขณะที่แอ่งกลางเกาะในทะเลกลาย เป็น Lagoon หรือ "ทะเลใน" มีถ้ำทะเลเชื่อมต่อกับด้านนอก น้ำทะเลไหลผ่านเข้าถึง ภายในแอ่งเหล่านี้เป็นเสมือนอีกโลกหนึ่งที่โอบล้อมไว้ด้วยผาหินปูนแต่ ครั้งอดีต ไม้ชายเลนเติบโตในที่ตื้นจนกลายเป็นป่าชายเลนขนาดย่อม มนุษย์ใช้ทะเลในเป็นแหล่งท่องเที่ยว หลายแห่งโด่งดังมีชื่อเสียงขจรไกล เช่น ทะเลใน (หมู่เกาะอ่างทอง สุราษฎร์ฯ) ถ้ำมรกต (ตรัง) เกาะห้อง (พังงา)เกาะห้อง (กระบี่) ฯลฯ และรวมถึงสถานที่แห่งนี้ด้วยเช่นกัน เรือแล่นอ้อมหน้าผาสูงใหญ่ จนมาถึงปากทางเข้าแคบๆ ทันทีที่เรือผ่านเข้าไป อ่าวใหญ่ปรากฏตรงหน้า มีหน้าผาสูงชันปิดล้อมเกือบรอบด้าน น้ำทะเลลงต่ำและเรียบกริบ ปราศจากคลื่นลม ดูแล้วช่างเหมือนสระว่ายน้ำที่โรงแรม น้ำทะเลใสสะอาด พื้นน้ำนิ่ง จนมองเห็นพันเห็นหมื่นปะการังอยู่ด้านล่าง ปะการังหลากหลายรูปทรง ทั้งปะการังแผ่น ปะการังเขากวาง ปะการังพุ่ม สีเขียว สีเทา สีฟ้า มีให้เลือกเกือบทุกสี กลายเป็นที่อยู่อาศัยและแหล่งหากินของปลาไม่รู้กี่สิบกี่ร้อยชนิด
5. อ่าวโละซามะ อีกมุมหนึ่งของทะเลอันดามันซึ่งเงียบสงบ กลางท้องน้ำ ท้องฟ้า และภูเขาหินที่ตระหง่านเหนือเวิ้งทะเล บริเวณชายหาดเล็กๆทางด้านขวาทอดตัวอยู่เคียงคู่เกลียวคลื่นที่เคลื่อนตัวตาม ลมพลิ้วไหว โดยมีหมู่แมกไม้พุ่มและไม้เลื้อยสีเขียวสดโลมเลียเข้ามาเป็นส่วนประกอบ ถัดต่อไปในบางส่วน คลื่นทะเลกำลังพัดเข้าปะทะ หน้าผาหินที่ประดับด้วยเรียวหินย้อยที่งามราวกับถูกออกแบบบรรจง แตกตัวกลายเป็นฟองสีขาวสาดกระเซ็นเห็นเป็นภาพที่เหนือกว่างานจิตรกรรมของ จิตรกรใดๆ ในขณะที่ ใต้ผืนน้ำตื้นๆเบื้องล่าง ปะการังแข็งหลายประเภท เช่น ปะการังก้อน ปะการังแผ่น ปะการังถ้วย ได้ใช้โขดหินที่ผุดขึ้นเป็นหย่อมๆเป็นที่สร้างอาณาจักร เลยลึกลงไปใต้ท้องน้ำ คือชุมชนของปะการังอ่อน ดอกไม้ทะเล และแส้ทะเล แม้ว่า เวิ้งอ่าวที่สวยงามแห่งนี้ มีขนาดไม่ใหญ่ และไม่สวยงามเท่าอ่าวมาหยา แต่ความสงบเงียบ ณ ที่แห่งนี้ ได้สร้างจินตนาการให้ล่องลอยเข้าไปสู่ความเคลื่อนไหวของท้องทะเล
การเดินทางไปหมู่เกาะพีพี
การเดินทางไปยังหมู่เกาะพีพีนั้นทำได้หลายทาง สามารถเดินทางไปได้ทั้งจากจังหวัดกระบี่ มีเรือโดยสารออกจากท่าเรือคลองจิหลาด อ่าวนาง และเกาะลันตา และจากจังหวัดภูเก็ตก็มีบริการนำเที่ยวแบบเช้าไปเย็นกลับ ระหว่างภูเก็ต - เกาะพีพีด้วย
กระบี่ - เกาะพีพี ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง ราคา 200 บาท
ออกจากกระบี่ :10.00 น. | 15.00 น.
ออกจากเกาะพีพี :09.00 น. | 13.30 น.
** มีบริการตลอดทั้งปี
ภูเก็ต - เกาะพีพี ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง ราคา 250 บาท
ออกจากภูเก็ต :08.00 น. | 13.00 น.
ออกจากเกาะพีพี :09.00 น. | 14.00 น.
** เที่ยวเวลา 08.00/14.30 น. มีบริการตลอดทั้งปี
เที่ยวเวลา 09.00/13.00 น. มีบริการเฉพาะ เดือนพฤศจิกายน - เดือนพฤษภาคม
หาดนพรัตน์ธารา - เกาะพีพี ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง ราคา 250 บาท
ออกจากหาดนพรัตน์ธารา :09.00 น.
ออกจากเกาะพีพี :15.30 น.
** มีบริการเฉพาะ เดือนพฤศจิกายน - เดือนพฤาภาคม
เกาะลันตา - เกาะพีพี ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง ราคา 200 บาท
ออกจากลันตา :08.00 น.
ออกจากเกาะพีพี : 13.00 น.
** มีบริการเฉพาะ เดือนพฤศจิกายน - เดือนพฤาภาคม
ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับการทัวร์เกาะพีพี
• พีพี แฟมิลี่ โทร. 075-612463
• ส่งเสริมแทรเวล โทร. 075-630471
• ทัวร์ภูเก็ต โทร.(076) 224-538, 01-6078567
• อ่าวนางแทรเวลแอนด์ทัวร์ โทร.075-637152-3, 075-637730
หากไปเป็นกลุ่มใหญ่ 10-20 คน อาจเช่าเรือเร็ว ราคา 7,000-12,000 บาท ค่ะ
:: เกาะลันตา ::
การเดินทางไปเกาะลันตา
จากตัวเมืองกระบี่ใช้ ถนนเพชรเกษม (ทางหลวงหมายเลข4) มุ่งหน้าสู่ จ. ตรัง ผ่าน อ. คลองท่อมถึงหลัก กม. 64 จะพบสามแยก ให้เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 4260 ไปประมาณ 27 กม. จะถึงท่าเรือแพขนานยนต์บ้านหัวหิน โดยสารเรือ ท่าเรือเจ้าฟ้า ขึ้นเรือที่ท่าเรือเจ้าฟ้า ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากตัวเมือง
รอบเรือขาไป มีด้วยกัน 2 รอบ คือ 10.00 น. กับ 13.30 น. ระยะทางประมาณ 50 ก.ม. ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงเศษ มาขึ้นเรือที่ท่าเทียบเรือบ้านศาลาด่าน ค่าโดยสารประมาณท่านละ 200 บาท
รอบเรือขากลับ มี 2 รอบเหมือนกัน คือ 08.00 น. และ 13.00 น. ค่าโดยสารอีกคนละ 20 บาท เรือจะมีบริการในฤดูกาลท่องเที่ยว
ฤดูกาลท่องเที่ยว คือ ตั้งแต่ช่วงเดือนพฤศจิกายนจน - เดือนพฤษภาคมของทุกปี
การไปเกาะลันตาไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิดอีกต่อไป เพราะปัจจุบัน มีเรือแพขนานยนต์ นักท่องเที่ยวสามารถนำรถข้ามไปได้อย่าง สะดวกสบายสามารถนำรถไปแล่นเที่ยว ตามหาดต่างๆบนเกาะ ท่าเรือบ้านหัวหิน เป็นท่าเรือแพขนานยนต์ สามารถนำรถลงแพและ ข้ามไปยังเกาะลันตาน้อย เมื่อขึ้นเกาะแล้วให้แล่นรถไปอีกประมาณ 300 เมตร เจอสามแยกให้เลี้ยวขวาไปตามถนนลาดยางอีก 8 กม. จะเห็นป้ายบอกทางไปแพข้ามฝาก(ท่าเรือหลังสอด)ไปเกาะลันตาใหญ่ ที่ท่าเทียบเรือบ้านศาลาด่านอีกประมาณ 25 นาที ก็จะได้พบกับ โลกอีกโลกที่สวยงาม นั่นคือ โลกแห่งท้องทะเล อัตราค่าโดยสารสำหรับรถยนต์จากท่าเรือแพบ้านหัวหิน ไปเกาะลันตาน้อย คันละ 50 บาท รวมคนขับ และผู้โดยสารคนละ 3 บาท และจากเกาะลันตาน้อย ไปลันตาใหญ่ รถยนต์คันละ 40 บาท ผู้โดยสารไม่ต้องเสียอีก
สนามบินกระบี่ - ท่าเรือเจ้าฟ้า(กระบี่) โดยรถรับส่ง 350 บาท ต่อเที่ยว
ท่าเรือเจ้าฟ้า(กระบี่) - ท่าเรือศาลาด่าน(เกาะลันตา): 200 บาท ต่อ คน: ระยะทาง 50 กม.
เวลา10:30ถึงเกาะลันตา13:00
เวลา13:30ถึงเกาะลันตา16:00
ท่าเรือศาลาด่าน(เกาะลันตา) - ท่าเรือเจ้าฟ้า(กระบี่): 200 บาท ต่อ คน: ระยะทาง 50 กม.
เวลา08:00ถึงท่าเรือเจ้าฟ้า10:30
เวลา13:00ถึงท่าเรือเจ้าฟ้า15:30
สถานีรถไฟ(จ.ตรัง) - เกาะลันตา (รถร่วม) : 200 บาท ต่อ คน
ราคารถรับส่ง จากโรงแรม(ทั่วไป) * ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับระยะทางด้วย
จากสนาบินกระบี่ (ต้องสำรองล่วงหน้า)1,800 บาทต่อ เที่ยว
จากสนามบินภูเก็ต หรือสนามบินสุราษฎร์3,500 บาทต่อ เที่ยว
จาถสนามบินตรัง2,500 บาทต่อ เที่ยว
เรือด่วน
เกาะพีพี - เกาะลันตา 11:00-12:30 ราคา 200 บาท ต่อคน
เกาะลันตา - เกาะพีพี 08:00-09:30 ราคา200 บาท ต่อคน
เกาะลันตา - กระบี่ 08:00-10:30 ราคา250 บาท ต่อคน
กระบี่ - เกาะลันตา 10:30-12:00 ราคา250 บาท ต่อคน
รถตู้โดยสาร
มีรถตู้โดยสารจากตัวเมืองกระบี่ ไปยังเกาะลันตาใหญ่วันละ 3 เที่ยว โดยขึ้นได้ที่ บริษัท ธนาทัวร์ ที่อยู่ตรงข้ามกับโรงแรมซิตี้ ในตัวเมืองกระบี่
ขาไป : รอบรถ คือ ตั้งแต่ 11.00 น. และ 13.00 น. และเที่ยวสุดท้าย 16.00 น.
ขากลับ : จากเกาะลันตาใหญ่มี 2 รอบ คือ 06.30 น. และ 11.00 น.
รถจะจอดอยู่หน้าอาณัติทัวร์บริเวณใกล้กับท่าเทียบเรือบ้านศาลาด่าน อัตราค่าโดยสารอยู่ที่คนละ 120 บาทต่อเที่ยว
หน้า 1 จาก 1
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
|
|